สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นกล่าวว่า ยอดขายรถใหม่ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มร่วงลง 9.9% ในปีหน้าเมื่อเทียบกับปีนี้ แตะที่ 4,465,000 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อรถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศยังขาดความแน่นอน
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวร่วงลงถึง 40% จากปี 2533 ซึ่งเป็นปีที่ยอดขายรถใหม่พุ่งสูงสุดที่ 7,777,493 คัน นอกจากนั้นยังเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2520 ซึ่งในปีนั้นยอดขายรถใหม่อยู่ที่ 4,194,249 คัน
เมื่อแบ่งตามประเภท รถขนาดเล็กคาดว่าจะมียอดขายลดลง 3.6% แตะที่ 1,657,000 คัน ส่วนรถที่ไม่ใช่รถขนาดเล็กคาดว่าจะร่วงลง 13.3% แตะที่ 2,808,000 คัน
โทชิยูกิ ชิกะ ประธานสมาคมยานยนต์ญี่ปุ่น กล่าวว่าในการแถลงข่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าต่อไปอีกหลายเดือน ยอดขายรถแต่ละเดือนคาดว่าจะลดลงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดขายจะดีดตัวอีกครั้งประมาณฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปิดตัวรถใหม่และโปรโมชั่นใหม่ๆ
อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่ายอดขายรถทั่วโลกจะยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ขณะเดียวกันก็มีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีน
สำหรับยอดผลิตรถในประเทศโดยรวมนั้น เขาคาดว่าจะอยู่ต่ำกว่า 10 ล้านคันในปีนี้เนื่องจากเงินเยนแข็งค่า แต่จะดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 10 ล้านคันในปีหน้าเนื่องจากตลาดต่างประเทศมีความแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกันยอดขายในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.5% แตะที่ 4,955,700 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
เมื่อแบ่งตามประเภท รถขนาดเล็กคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 1.8% แตะที่ 1,718,000 คัน ส่วนรถที่ไม่ใช่รถขนาดเล็กคาดว่าจะทะยาน 10.8% แตะที่ 3,237,700 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน