เปอร์ตามินา บริษัทน้ำมันและก๊าซของรัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัทจะสูญเสียเงินจำนวนมากหากราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โมชัมหมัด ฮารูน โฆษกของเปอร์ตามินา กล่าวว่า บริษัทจะได้รับผลกระทบหนักเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเหนือกว่าการจัดสรรงบของรัฐบาลเพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันในปีนี้
ราคาน้ำมันในอินโดนีเซียพุ่งแตะ 91.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในยุโรปทำให้อุปสงค์ปรับตัวสูงขึ้น
"โอเปคคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันจะพุ่งสูงสุดในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม" รูดี รูเบียนดินี นักวิเคราะห์พลังงาน กล่าว พร้อมกันนั้นยังคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้า ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ระดับปกติในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และอุปสงค์จะร่วงสู่ระดับต่ำสุดในเดือนพฤษภาคม
รูดีกล่าวว่าราคาน้ำมันดิบจะส่งผลกระทบต่อการจัดสรรเงินอุดหนุนน้ำมันในอินโดนีเซียในเดือนธันวาคม เนื่องจากความต้องการในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่จะเพิ่มขึ้นสูงสุด 10% จากระดับโดยเฉลี่ย
รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียตัดสินใจเพิ่มปริมาณน้ำมันที่ได้รับเงินอุดหนุนอีก 1.87 ล้านบาร์เรลเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเอวิตา เลโกโว ผู้อำนวยการด้านน้ำมันและก๊าซของกระทรวงพลังงานกล่าวว่า รัฐบาลสามารถประหยัดเงินได้ 7.7 ล้านล้านรูเปียะห์ (855 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากราคาน้ำมันเฉลี่ยเมื่อช่วงต้นปีอยู่ต่ำกว่าระดับที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
รัฐบาลอินโดนีเซียให้เงินอุดหนุนเชื้อเพลิงไปแล้ว 88.9 ล้านล้านรูเปียะห์ (9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ แต่เอวิตาเชื่อว่าอาจลดลงเหลือ 81.1 ล้านล้านรูเปียะห์ (8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากที่รวมเดือนธันวาคมเข้าไปแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน