เจนเนอรัล มอเตอร์ โค (จีเอ็ม) ทำยอดขายในจีนได้มากกว่าในสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จีเอ็มทำยอดขายในต่างประเทศได้มากกว่าในประเทศ หลังก่อตั้งบริษัทมานาน 102 ปี
ลอสแองเจลิส ไทม์ รายงานบนเว็บไซต์ว่า ยอดขายของจีเอ็มในจีนพุ่งสูงขึ้น 28.8% แตะที่ 2,351,610 คันในปี 2553 ขณะที่ยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 6.3% แตะระดับ 2,215,227 คัน
เมื่อไม่นานมานี้ จีเอ็มประกาศว่า บริษัทคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าสหรัฐจะมียอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์และรถยนต์ไปจีนราว 900 ล้านคัน
ขณะที่บราซิลเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของจีเอ็ม ด้วยยอดขายที่ 657,825 คัน เพิ่มขึ้น 10.4% ขณะที่ยอดขายโดยรวมทั่วโลกของจีเอ็มเพิ่มขึ้น 12.2% แตะ 8,389,769 คันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จีเอ็มเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่รั้งสถานะดีที่สุดในตลาดเกิดใหม่ และอยู่เหนือกว่าโตโยต้า จอร์จ แมคลิอาโน นักเศรษฐศาสตร์จาก IHS Automotive กล่าว
แม้ว่าจีเอ็มจะมีการปรับโครงสร้างหลังการยื่นพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลายในปี 2552 และมีความพยายามในการกลับเข้าสู่ตลาดสหรัฐ จีเอ็มยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในฐานะที่ดีที่สุดในตลาดเกิดใหม่ แมคลิอาโนกล่าว
"จีเอ็มยอมเสี่ยงที่จะเข้าสู่ตลาดจีนด้วยการเปิดตัวแบรนด์บูอิกหลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้การขยายธุรกิจทั่วโลกของจีเอ็มไปได้ดีกว่าโตโยต้าเสียอีก" เขากล่าว "ฟอร์ดกำลังไปได้ด้วยดี แต่พวกเขายังต้องพยายามต่อไปที่จะจับตลาดเกิดใหม่"
รายงานระบุข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีนว่า ในปี 2552 จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยยอดขายรถยนต์โดยสารทั่วประเทศในปี 2553 เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน