ไมโครซอฟท์ คอร์ป รายงานผลประกอบการเดือนต.ค.-ธ.ค.2553 ที่ 1.995 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปีและเป็นผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายกล้องจับความเคลื่อนไหว Kinect ที่ใช้งานควบคู่กับเครื่องเกมคอนโซล Xbox360
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แม้ไมโครซอฟท์เปิดเผยรายได้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ผลกำไรสุทธิรายไตรมาสลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 6.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากปีก่อนหน้านี้ที่เคยทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของระบบปฏิบัติการ Windows 7
ไมโครซอฟท์ระบุว่าปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสล่าสุดมาจากการขยายตัว 55% ของรายได้ในแผนกผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิง โดยระบุว่า อุปกรณ์ Kinect ช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องเกมคอนโซล Xbox360 รวมถึงเพิ่มจำนวนสมาชิก Xbox Live และ Xbox games
ในทางกลับกัน รายได้ในแผนกธุรกิจ Windows และ Windows Live ร่วงลง 30% อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ได้จำหน่ายระบบปฏิบัติ Windows 7 กว่า 300 ล้านรายการ และขณะนี้ได้มีการใช้งานเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนเครื่องพีซีแล้วกว่า 20%
"เราตื่นเต้นกับการตอบรับของผู้บริโภคที่มีต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับวันหยุด ซึ่งรวมถึงการเปิดตัว Kinect ที่ทำยอดขายได้ถึง 8 ล้านชุดในเวลาเพียง 60 วัน ซึ่งตัวเลขนี้สูงเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก" ปีเตอร์ ไคล์น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของไมโครซอฟท์กล่าว