ออโต้ดาต้า คอร์ป บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐพุ่งขึ้น 17.3% แตะที่ 819,895 คันในเดือนม.ค. ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยังรั้งอันดับหนึ่งในฐานะค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายสูงสุดถึง 178,896 คัน พุ่งขึ้น 22.7% ด้วยส่วนแบ่งตลาด 21.8% ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดขาย 126,981 คัน เพิ่มขึ้น 13.2% มีส่วนแบ่งตลาด 15.5% และอันดับ 3 ยังคงเป็นของโตโยต้า มอเตอร์ ค่ายรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นซึ่งมียอดขาย 819,895 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากที่ยอดขายของบริษัทถูกกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์เรียกคืนรถยนต์ครั้งใหญ่ทั่วโลกในช่วงปลายปี 2552 จนถึง 2553
อันดับ 4 เป็นของ ฮอนด้า มอเตอร์ ที่ทำยอดขายได้ 76,269 คัน เพิ่มขึ้น 13.0% ด้วยส่วนแบ่งตลาด 9.3% และ ไครส์เลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี ตามมาที่อันดับ 5 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 22.7% แตะ 70,118 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
สำหรับยอดขายรวมของค่ายรถ "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ จีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์นั้น พุ่งขึ้น 19.3% แตะที่ 375,995 คัน มีส่วนแบ่งตลาดในสัดส่วน 45.9% ของตลาดรถยนต์ใหม่ในสหรัฐในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 45.1% ในปีก่อน
ส่วนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่นนั้น นิสสัน มอเตอร์ ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 14.8% แตะ 71,847 คัน ยอดขายของฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถซูบารุ เพิ่มขึ้น 20.8% แตะที่ 18,858 คัน ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพิ่มขึ้น 37.0% แตะ 5,714 คัน และยอดขายของซูซูกิ มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 25.6% แตะ 2,562 คัน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ ลดลง 9.1% แตะที่ 14,267 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน