นายคริส เอเมอร์สัน รองประธานอาวุโสฝ่ายยุทธศาสตร์ผลิตภัณฑ์และคาดการณ์ตลาดของแอร์บัส คาดการณ์ว่า สายการบินในเอเชียแปซิฟิกจะซื้อเครื่องบินใหม่ราว 8,560 ลำ คิดเป็นมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 20 ปีต่อจากนี้ แซงหน้าสายการบินในอเมริกาเหนือและยุโรป ในฐานะที่เอเชียเป็นตลาดขนส่งทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นายเอเมอร์สันกล่าวว่า ภายใน 20 ปีข้างหน้าสายการบินในเอเชียแปซิฟิกจะมีจำนวนผู้โดยสาร 1 ใน 3 ของทั้งหมดทั่วโลก และมีการขนส่งสินค้าทางอากาศ 2 ใน 3 ของทั้งหมดทั่วโลก ขณะเดียวกันสายการบินในเอเชียแปซิฟิกยังได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั่วภูมิภาค
เขาอธิบายว่าการที่ระบบขนส่งในเอเชียมีการเปิดเสรีมากขึ้น รวมถึงการที่ผู้คนมีฐานะดีขึ้น ทำให้จำนวนผู้โดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยการคาดการณ์ดังกล่าวพิจารณาบนพื้นฐานของจำนวนผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาคที่ขยายตัวมากเกินค่าเฉลี่ย รวมทั้งการเปลี่ยนเครื่องบินที่ให้บริการจำนวนมาก
ในส่วนของผู้โดยสารนั้น แอร์บัสคาดการณ์ว่าผู้โดยสารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องการเครื่องบินขนาดใหญ่กว่าเดิม เนื่องจากมีผู้โดยสารเดินทางระหว่างเมืองใหญ่มากขึ้น
สำหรับส่วนของการขนส่งสินค้าทางอากาศนั้น เขาคาดว่าเอเชียแปซิฟิกจะยังครองตลาดโลก โดยเครื่องบินขนส่งสินค้าในภูมิภาคแห่งนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า แตะที่ 1,056 ลำ หรือคิดเป็น 30% ของเครื่องบินขนส่งสินค้าใหม่ทั้งหมดทั่วโลก
ทั้งนี้ เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดหลักของแอร์บัส โดยมีสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ของยอดสั่งซื้อที่บริษัทได้รับทั้งหมด ปัจจุบันมีเครื่องบินแอร์บัสให้บริการราว 1,700 ลำโดยผู้ให้บริการกว่า 70 รายในภูมิภาค และมีเครื่องบินรอส่งมอบอีก 1,100 ลำ สำนักข่าวซินหัวรายงาน