ดอยช์แบงก์คาดวิกฤติญี่ปุ่นเป็นโอกาสจีเอ็ม,ฟอร์ดมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 7, 2011 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอยช์แบงก์คาดการณ์ว่า ผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่นอาจส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยต์ในอเมริกาเหนือหดตัวลงในปีนี้ แต่คาดว่าจะช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และฟอร์ด มอเตอร์ สูงขึ้น

ร็อด แลช นักวิเคราะห์ของดอยช์แบงก์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2554 และ 2555 ของฟอร์ด และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2555 ของจีเอ็ม

ทั้งนี้ นายแลชกล่าวว่า ภาวะติดขัดที่มีสาเหตุมาจากภัยพิบัติในญี่ปุ่นนั้น อาจทำให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมในปีนี้ร่วงลง 5 แสนคัน มาอยู่ที่ 12.5 ล้านคัน แต่ขณะเดียวกันก็คาดว่า การผลิตในอเมริกาเหนือจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า โดยเขาได้ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายปี 2555 อีก 5 แสนคันเป็น 14.5 ล้านคัน

เขาเชื่อว่า อุปทานยานยนต์จากผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นจะร่วงลงอย่างมากในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ปริมาณรถยนต์ในสต็อกของดีลเลอร์หดตัวลงและไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย

"อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความต้องการที่สูงขึ้นจะทำให้ยอดขายรถยนต์ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2555" นายแลชกล่าว

นายแลชได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ภาวะขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์อาจจะส่งผลกระทบเพียงระดับปานกลางต่อกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐ และคาดว่าจีเอ็มและฟอร์ดจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นราว 2-3% พร้อมกับกล่าวว่า ราคารถยนต์ที่สูงขึ้นจะช่วยหนุนกำไรของฟอร์ดและจีเอ็มเพิ่มขึ้นด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ