แอปเปิลเดินเกมสกัดคู่แข่งดาวรุ่งจากแดนโสม ด้วยการยื่นฟ้องซัมซุงต่อศาลแขวงในนอร์ทเทิร์นแคลิฟอร์เนียเมื่อวันศุกร์ที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาละเมิดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า โดยยักษ์ใหญ่ด้านสมาร์ทโฟนจากสหรัฐมองว่า สมาร์ทโฟนหลายรุ่นของซัมซุงเช่น Galaxy S 4G และ Nexus S รวมถึงแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ตระกูล Galaxy ละเมิดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าไอแพดและไอโฟนของแอปเปิล
ขณะที่ซัมซุงร่อนแถลงการณ์ชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ของซัมซุงเป็นผลพวงมาจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาโดยตลอดของบริษัท ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีหลักและการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของซัมซุง
ยักษ์ใหญ่จากแดนโสมระบุด้วยว่า บริษัทจะตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วยการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท
นับตั้งแต่ที่แอปเปิลได้เปิดตัวไอแพดรุ่นแรกเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ซัมซุงเป็นคู่แข่งรายแรกที่กระโจนเข้าสู่ตลาด ด้วยการเปิดตัว Galaxy Tab ในช่วงปลายปีที่แล้ว รายต่อมาคือ โมโตโรล่าที่ได้ฤกษ์เปิดตัวแท็บเล็ตซึ่งใช้ระบบแอนดรอยด์ 3.0 เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ล่าสุด รีเสิร์ช อิน โมชั่น ก็ได้เปิดตัวเพลย์บุ๊คขนาด 7 นิ้ว และฮิวเลตต์-แพคการ์ดที่วางแผนนำทัชแพดรุกเข้าตลาดในเร็วๆนี้
การที่ค่ายแอปเปิล ซัมซุง โมโตโรล่า และรีเสิร์ช อิน โมชั่น ต่างพากันส่งแท็บเล็ตของตนลงสู่สังเวียนนั้น ทำให้การแข่งขันในตลาดร้อนแรง และเป็นตลาดหนึ่งที่คาดว่าจะทำรายได้มหาศาลในช่วงระยะเวลา 4 ปี
บริษัท สตราทิจี อนาไลติคส์ เผยผลการศึกษาว่า ตลาดแท็บเล็ตทั่วโลกจะขยายตัวถึง 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2558 ด้วยจำนวน 150 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ตลาดแท็บเล็ตเป็นรองก็เพียงแต่ตลาดโทรทัศน์และพีซีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี การ์ทเนอร์คาดว่า มียักษ์ใหญ่เพียง 3 รายที่จะครองส่วนแบ่งตลาดนี้ โดยแท็บเล็ตเกือบครึ่งหนึ่งนั้นจะใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิล รองลงมาเป็นส่วนแบ่งของระบบแอนดรอยด์จากกูเกิล 40% และซอฟต์แวร์คิวเอ็นเอ็กซ์ของอาร์ไอเอ็มที่ส่วนแบ่งประมาณ 10%
บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ระบุว่า ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกปีนี้จะขยายตัวอีก 58% และคาดว่า ระบบแอนดรอยด์จะสามารถชิงส่วนแบ่งได้ประมาณ 39% ส่วนตลาดแท็บเล็ตมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวถึง 4 เท่าในปีนี้ หรือคิดเป็นจำนวน 70 ล้านเครื่อง และคาดว่า ยอดขายแท็บเล็ตทั่วโลกจะอยู่ที่ 294 ล้านเครื่องภายในปี 2558
โดยไอแพดจะยังคงเป็นเจ้าตลาดต่อไปในช่วง 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม การ์ทเนอร์คาดว่า ส่วนแบ่งตลาดของไอแพดจะลดลงเหลือ 47% ในปี 2558 เมื่อผลิตภัณฑ์ในระบบแอนดรอยด์เข้ามาในตลาด
สื่อต่างประเทศอย่างบีบีซีได้รวบรวมความคิดเห็นหลากหลายมุมมองจากนักวิเคราะห์ ซึ่งแต่ละแง่มุมก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน จอห์น แจ็คสัน นักวิเคราะห์ของซีซีเอส อินไซท์ กล่าวว่า ในขณะนี้ เรียกได้ว่าซัมซุงเป็นคู่แข่งด้านแท็บเล็ตที่แท้จริงของแอปเปิล ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า บริษัทไม่ต้องการปล่อยให้แอปเปิลลอยลำไปแต่เพียงผู้เดียว
ด้านจอห์น พาร์ค นักวิเคราะห์ของไดอิจิ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เหมือนกับการเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ของทางแอปเปิลที่ค่อนข้างจะจริงจังกับการรุกคืบของคู่แข่ง และบริษัทก็พยายามที่จะสกัดคู่แข่งที่หายใจรดต้นคอมาติดๆ
สำหรับทิม เว็บเบอร์ บรรณาธิการข่าวธุรกิจของเว็บไซต์บีบีซี นิวส์ มองว่า การฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรในโลกของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้นถือเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงเกียรติยศกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นล้ำสุดๆ
นอกจากซัมซุงแล้ว ก่อนหน้านี้ แอปเปิลยังได้ฟ้องโมโตโรล่าและเอชทีซี ขณะที่แอปเปิลเองถูกโนเกียฟ้องเช่นกัน กลายเป็นการฟ้องร้องที่เป็นงูกินหาง ซึ่งเว็บเบอร์กล่าวว่า กลไกทางกฎหมายเหล่านี้ ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะชนะใคร แต่ถือเป็นโอกาสที่จะได้มีการสร้างข้อกังขาให้แพร่สะพัด และชะลอการรุกคืบธุรกิจของอีกฝ่าย
เอ็ดเวิร์ด ไซน์เดอร์ นักวิเคราะห์ของชาร์เตอร์ อิควิตี้ รีเสิร์ช แสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันกับเว็บเบอร์ที่ว่า การฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการยิงธนูอีกดอกของทางฝั่งแอปเปิล เพื่อชะลอกิจการคู่แข่งที่ใกล้ชิดที่สุดของบริษัท และคาดว่าทั้ง 2 บริษัทจะสามารถประนีประนอมกันได้ในที่สุด
แม้ว่าตัวแทนจากแอปเปิลจะออกมาพูดว่า "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของซัมซุงมีหน้าตาแทบจะเหมือนกับ iPhone และ iPad ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกของเครื่องไปจนถึงยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ และแม้แต่บรรจุภัณฑ์"
และสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิลจะเคยล้อเลียนซัมซุงและผู้ผลิตแท็บเล็ตรายอื่นว่าเป็นพวก "ชอบเลียนแบบ" ในช่วงเปิดตัว iPad2
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งนั้น แอปเปิลและซัมซุงยังมีฐานะเป็นคู่ค้ากันด้วย โดยแอปเปิลเป็นลูกค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของซัมซุงเมื่อปีที่แล้ว รองจากโซนี่ และยังมีแผนซื้อชิ้นส่วนจากซัมซุงถึง 7.8 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวจึงทำให้แอปเปิลไม่เพียงแต่เป็นคู่แข่งของซัมซุงเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกค้ารายสำคัญในเวลาเดียวกันด้วย
ผลิตภัณฑ์ที่แอปเปิลเคยสั่งซื้อและกำลังจะซื้อจากซัมซุงนั้นมีทั้งจอแอลซีดีแบบไฮเอนด์ โปรเซสเซอร์สำหรับสมาร์ทโฟน และเมมโมรีแฟลช NAND ซึ่งที่ผ่านมา แอปเปิลมักจะเซ็นสัญญาซื้อสินค้าจำนวนมากกับซัพพลายเออร์ของบริษัท เพื่อสร้างความอุ่นใจว่า บริษัทจะยังคงมีชิ้นส่วนที่จำเป็นไว้ใช้งานด้านการพัฒนา ในขณะเดียวกันก็เดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคก็คงจะได้อานิสงส์จากการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของยักษ์ใหญ่ด้านไอทีที่ต่างสรรหาหลากกลยุทธ์และเทคโนโลยีออกมาดึงลูกค้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน