บริษัท แคนนอน อิงค์ มีกำไรสุทธิลดลง 2.4% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบรายปี แตะ 5.546 หมื่นล้านเยน อันเป็นผลมาจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับยอดขายในไตรมาสแรกนั้น เพิ่มขึ้น 11.1% แตะ 8.3919 แสนล้านเยน อันเป็นผลมาจากยอดขายเลเซอร์พรินเตอร์ที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงการเข้าซื้อกิจการบริษัท Oce N.V. ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารจากเนเธอร์แลนด์
อย่างไรก็ดี การซื้อกิจการบริษัท Oce ทำให้แคนนอนมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 5.0% แตะ 8.250 หมื่นล้านเยน
สำหรับตลอดปีธุรกิจ 2553 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม แคนนอนคาดว่า จะมีกำไรสุทธิ 2.20 แสนล้านเยน ลดลง 10.8% จากปีก่อนหน้า ส่วนกำไรจากการดำเนินงานคาดว่า จะอยู่ที่ 3.35 แสนล้านเยน ลดลง 13.6% ขณะที่ยอดขายคาดว่า จะขยับขึ้น 0.6% แตะ 3.73 ล้านล้านเยน
ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคม โดยตอนนั้นแคนนอนคาดว่า จะมีกำไรสุทธิ 3.10 แสนล้านเยน, กำไรจากการดำเนินงาน 4.70 แสนล้านเยน และยอดขาย 4.10 ล้านล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน