สหรัฐเผยยอดขายรถร่วงลง 3.7% ในเดือนพ.ค. "โตโยต้า" ดิ่งหนักสุดใน 16 ปี

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 2, 2011 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ออโตดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลง 3.7% ในเดือนพฤษภาคม แตะที่ 1,061,719 คัน ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบรายปี

ค่ายรถที่มียอดขายมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐยังคงเป็นบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ ที่สามารถทำยอดขายได้ 221,192 คันในเดือนพฤษภาคม หรือขยับลง 1.0% ครองส่วนแบ่งในตลาด 20.8% ส่วนอันดับ 2 ยังเป็นของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ที่มียอดขายลดลง 0.3% แตะที่ 191,529 คัน ครองส่วนแบ่งในตลาด 18.0%

สำหรับอันดับ 3 เป็นของบริษัท ไครสเลอร์ กรุ๊ป ซึ่งขายรถได้มากขึ้น 8.4% แตะที่ 113,604 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 10.7% หลังจากที่ต้องรั้งอันดับ 5 มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2553

ส่วนยอดขายรวมของค่ายรถยักษ์ใหญ่ 3 รายของสหรัฐ หรือกลุ่มบิ๊กทรี (จีเอ็ม ฟอร์ด และไครส์เลอร์) เพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 526,325 คัน ครองส่วนแบ่ง 49.6% ในตลาด เพิ่มขึ้นจาก 47.2% ในปีที่แล้ว

สำหรับค่ายรถญี่ปุ่นนั้นมียอดขายร่วงลง เนื่องจากแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์ โดยยอดขายของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ร่วงลงถึง 33.4% แตะที่ 108,387 คัน ซึ่งร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2538 ทำให้โตโยต้าสูญเสียตำแหน่งผู้ครองส่วนแบ่งมากเป็นอันดับ 3 ในตลาดสหรัฐ

ด้านบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ มียอดขายร่วงลง 22.5% แตะที่ 90,773 คัน มีส่วนแบ่งในตลาด 8.5% ตกลงมาสู่อันดับ 5

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ มียอดขายลดลง 9.1% สู่ระดับ 76,148 คัน, บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายร่วงลง 20.9% แตะ 17,875 คัน และบริษัท ฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรี ผู้ผลิตรถซูบารุ มียอดขายลดลง 15.3% แตะ 20,036 คัน

อย่างไรก็ดี ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป อยู่ที่ 7,568 คัน เพิ่มขึ้น 59.8% และบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายเพิ่มขึ้น 20.3% แตะ 2,290 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ