ผลการศึกษาชี้คุณภาพรถยนต์ของสหรัฐลดลงในปี 2554

ข่าวต่างประเทศ Friday June 24, 2011 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การศึกษาฉบับใหม่ในสหรัฐระบุ รถรุ่นใหม่หรือรถที่มีการปรับโฉมใหม่ในปี 2554 มีปัญหามากกว่ารถรุ่นปี 2553 อยู่ 10%

หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์ส เผยแพร่รายงานการศึกษาเรื่องคุณภาพรถของสหรัฐประจำปีที่จัดทำโดยเจ.ดี.พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ว่า ปัญหาที่พบมากขึ้นนี้เกิดจากการที่ผู้ผลิตรถเพิ่มการติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงและระบบส่งกำลังที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ที่ต้องการให้รถมีสมรรถนะดีขึ้นและประหยัดน้ำมัน

บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ได้ติดตั้งเทคโนโลยีมัลติมีเดียเพิ่มมากขึ้น เช่น กล้องกระจกมองท้ายและระบบแฮนด์ฟรี ระบบการสั่งงานด้วยเสียง แต่ผู้ขับขี่บางส่วนมองว่า ระบบพวกนี้ไม่ได้ทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็นหรือทำงานได้เอง

"ทุกครั้งที่คุณติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆลงไป คุณกำลังเพิ่มสิ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาอีก" เดฟ ซาร์เกน รองประธานฝ่ายวิจัยยานยนต์ของเจ.ดี.พาวเวอร์กล่าว

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ออกตัวช้าเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มีการร้องเรียนอย่างมากในปีนี้ จากผลของการตั้งโปรแกรมซอฟท์แวร์ใหม่ เพื่อให้รถดูแข็งแรงทนทานและมีสมรรถนะการทำงานสูงสุด นายซาร์เกนท์กล่าว

ผลการศึกษาชี้ด้วยว่า แบรนด์รถยนต์นำเข้ากลับขึ้นมาเป็นผู้นำด้านคุณภาพอีกครั้ง หลังจากที่ถูกแบรนด์รถยนต์ในประเทศมีคุณภาพแซงหน้าไปเป็นครั้งแรกในปี 2553 นับตั้งแต่ทำการศึกษามา

"โดยเฉพาะแบรนด์รถสัญชาติญี่ปุ่นนั้น มีคุณภาพแซงหน้าไปอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้" ซาร์เกนกล่าว "เราคาดว่าผู้ผลิตรถสัญชาติอเมริกันจะตอบโต้เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงด้านคุณภาพกลับคืนมา"

รถยนต์รุ่นปี 2554 ของโตโยต้าได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มรถที่มีคุณภาพดี โดยมีเล็กซัสเป็นผู้นำด้านแบรนด์คุณภาพดีเยี่ยม หลังจากที่โตโยต้าเผชิญวิกฤตเรียกคืนรถครั้งใหญ่ในปี 2553

ทั้งนี้ รถยนต์ 10 แบรนด์ดังที่มีรายงานว่าพบปัญหาน้อยที่สุดในช่วง 3 เดือนแรกของการสำรวจ ได้แก่ เล็กซัส ฮอนด้า อาคิวรา เมอร์เซเดส-เบนซ์ มาสด้า พอร์ช โตโยต้า อินฟินิตี คาดิแลค และจีเอ็มซี สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ