พรรคกรีนส์ของออสเตรเลียเปิดเผยรายงานที่ได้จากการวิจัยของพรรคว่า ต่างชาติเป็นผู้ครอบครอง 83% ของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในออสเตรเลีย และภายใน 5 ปีข้างหน้า รายได้ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้จากการลงทุนในเหมืองแร่จะตกเป็นของต่างชาติ
นายบ๊อบ บราวน์ หัวหน้าพรรคกรีนส์ กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียไม่รู้เลยว่าต่างชาติเข้ามาครอบครองทรัพยากรของประเทศอย่างรวดเร็ว
"ผมคิดว่าชาวออสเตรเลียไม่รู้เลยว่าอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของเราถูกเทคโอเวอร์อย่างรวดเร็ว" นายบราวน์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอบีซีในวันนี้
พรรคกรีนส์จะใช้ข้อมูลในรายงานนี้ผลักดันให้มีการใช้มาตรการเก็บภาษีใหม่ที่เรียกว่า "super profits tax" กับบริษัทเหมืองแร่ ซึ่งครอบคลุมถึงบริษัทที่ได้รับการยกเว้นภาษี "minerals resource rent tax" ของรัฐบาลกลาง นอกจากนั้นนายบราวน์ยังต้องการให้บังคับใช้มาตรการภาษีใหม่กับธุรกิจทองคำและยูเรเนียมด้วย ไม่ใช่เฉพาะถ่านหินและแร่เหล็กเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายเบน มิทเชล จากสภาผู้ประกอบการเหมืองแร่แห่งออสเตรเลีย เพิกเฉยต่อรายงานของพรรคกรีนส์ โดยกล่าวว่ามีชาวออสเตรเลียหลายล้านคนที่ถือหุ้นในบริษัทเหมืองแร่ในประเทศ ขณะที่ชาวออสเตรเลียอีกหลายล้านคนก็ทำงานให้กับบริษัทเหมืองแร่ ทำธุรกิจกับบริษัทเหมืองแร่ และได้รับประโยชน์ต่างๆจากบริษัทเหมืองแร่
นอกจากนั้นทางสภาผู้ประกอบการเหมืองแร่ยังโต้แย้งว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา 98% ของกระแสเงินสดที่ได้จากอุตสาหกรรมเหมือง ถูกนำไปจ่ายภาษี ค่าสัมปทาน หรือนำไปลงทุนใหม่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน