บริษัทวิจัย ออโตดาต้า คอร์ป รายงานว่า ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย 3 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ในสหรัฐมียอดขายเพิ่มขึ้นแบบเลขสองหลัก แต่โตโยต้าและฮอนด้ามียอดขายร่วงลงกว่า 20%
โดยในเดือนมิถุนายนนั้น บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส ยังคงเป็นค่ายรถสหรัฐที่มียอดขายสูงสุด โดยขายรถได้ 215,335 คัน เพิ่มขึ้น 10.6% และครองส่วนแบ่งในตลาดยานยนต์สหรัฐ 20.4%
ส่วนอันดับสองตกเป็นของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 13.3% แตะ 193,415 คัน และครองส่วนแบ่งในตลาด 18.4% ตามมาด้วยบริษัท ไครส์เลอร์ กรุ๊ป ที่ขายรถได้ 118,591 คัน เพิ่มขึ้น 28.2% ครองส่วนแบ่งในตลาด 11.3%
ยอดขายรวมของทั้งสามบริษัทพุ่งขึ้น 15.2% แตะที่ 527,341 คัน คิดเป็นสัดส่วน 50.1% ของตลาดยานยนต์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 46.5% ในปีที่แล้ว
สำหรับอันดับสี่ยังคงเป็นของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ซึ่งมียอดขายร่วงลง 21.1% แตะ 110,937 คัน มีส่วนแบ่งในตลาด 10.5% ตามมาด้วยบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ที่มียอดขายลดลง 21.3% แตะที่ 83,892 คัน มีส่วนแบ่งในตลาด 8.0% ขณะที่บริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี ผู้ผลิตรถยี่ห้อซูบารุ มียอดขายลดลง 8.4% แตะ 19,794 คัน
อย่างไรก็ดี บริษัท นิสสัน มอเตอร์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 11.4% แตะที่ 71,941 คัน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน ส่วนบริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายเพิ่มขึ้น 5.9% แตะ 19,307 คัน ขณะที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ขายรถได้ 8,299 คัน พุ่งขึ้น 97.7% และบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป ขายรถได้มากขึ้น 11.9% แตะที่ 2,278 คัน
ทั้งนี้ ยอดขายรถใหม่รวมในสหรัฐอยู่ที่ 1,053,248 คันในเดือนมิถุนายน ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปียอดขายรวมอยู่ที่ 6,332,566 คัน เพิ่มขึ้น 12.8% จากปีที่แล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน