ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐประจำเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 1,059,601 คัน โดยยอดขายมีอัตราการขยายตัวที่ลดลง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนมิ.ย.อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า
เจนเนอรัล มอเตอร์ส โค (จีเอ็ม) ยังสามารถรั้งตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐที่ทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 214,915 คันในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.7% โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 20.3% ตามมาด้วยฟอร์ด มอเตอร์ โค ที่รั้งอันดับ 2 ด้วยยอดขายที่ขยายตัว 8.7% แตะ 180,315 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 17.0%
อันดับ 3 ยังคงเป็นของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 12.3% แม้ยอดขายของโตโยต้าลดลง 22.7% มาอยู่ที่ระดับ 130,802 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541 ก็ตาม ขณะที่ไครสเลอร์ครองอันดับ 4 ด้วยยอดขาย 108,988 คัน เพิ่มขึ้น 16.8% และส่วนแบ่งตลาด 10.3%
เจ้าหน้าที่ของโตโยต้ากล่าวว่า "การผลิตของเราเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และคาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป"
ส่วนยอดขายของบริษัทอื่นๆในญี่ปุ่นนั้น ฮอนด้า มอเตอร์ ดิ่งลง 28.4% เหลือ 80,502 คัน เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ร่วงลง 21.3% ซึ่งในขณะที่ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ 2 แห่งอย่างโตโยต้าและฮอนด้ามียอดขายที่ลดลงจากผลพวงของเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมานั้น แต่ค่ายรถร่วมชาติอย่างนิสสัน มอเตอร์ โค ยังมียอดขายที่ขยายตัวขึ้นต่อเนื่องในอัตรา 2.7% แตะ 84,601 คัน หลังจากที่ทะยานขึ้น 11.4% ในเดือนมิ.ย.
จากยอดขายดังกล่าวส่งผลให้นิสสันครองส่วนแบ่งในตลาดได้ 8.0% แซงหน้าฮอนด้าในฐานะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ในเดือนก.ค. โดยส่วนแบ่งตลาดของฮอนด้าอยู่ที่ 7.6% และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี 6 เดือนที่นิสสันชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์สหรัฐได้มากกว่าฮอนด้า
ขณะที่บริษัทฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี้ส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อแบรนด์ซูบารุ ยังคงมียอดขายที่ลดลงเมื่อเทียบกับเป็นรายปีที่อัตรา 9.4% มาอยู่ที่ 21,730 คัน หลังทำยอดขายร่วงลง 8.4% ในเดือนมิ.ย. ส่วนยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ป กระเตื้องขึ้น 0.2% แตะ 20,783 คัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ทำยอดขายได้ 7,972 คัน เพิ่มขึ้น 41.1% ขณะที่ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป ทำยอดขายทะยานขึ้น 25.4% แตะที่ 2,447 คัน
สำหรับยอดขายรถยนต์โดยรวมของ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ หรือกลุ่มบิ๊กทรี เพิ่มขึ้น 9.9% แตะ 504,218 คัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 47.6% เพิ่มขึ้นจากระดับ 43.7% จากปีก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน