บริษัท แซนด์ส ไชน่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป ผู้พัฒนารีสอร์ตระดับโลก บรรลุข้อตกลงกับ ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ และอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือไอเอชจี เพื่อเปิดตัวโรงแรมคอนราด และ ฮอลิเดย์ อินน์ ที่ โคไท สตริป (Cotai Strip(R)) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาล่าสุดของแซนด์สในมาเก๊า โดยจะเริ่มต้นในช่วงต้นปีหน้า
พร้อมกันนี้ แซนด์ส ไชน่า ประกาศเปลี่ยนชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งรู้จักกันมาอย่างยาวนานในนาม พาร์เซลส์ ไฟฟ์ แอนด์ ซิกส์ (parcels five and six) เป็น “แซนด์ส โคไท เซ็นทรัล" (Sands Cotai Central) อย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ โคไท เซ็นทรัล ซึ่งได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นพื้นที่พัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นที่หมายปองที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมโรงแรมและกาสิโนนั้น จะประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสวีทรวม 6,000 ห้องจากโรงแรมคอนราด, เชอราตัน, เชอราตัน ทาวเวอร์ส และ ฮอลิเดย์ อินน์ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานและการประชุมที่กว้างขวาง คาสิโน 2 แห่ง ตลอดจนร้านค้าสุดหรู พร้อมแหล่งอาหารและความบันเทิงให้เลือกสรรอย่างมากมายและหลากหลาย
นายเชลดอน จี. อเดลสัน (Mr. Sheldon G. Adelson) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของทั้งแซนด์ส ไชน่า จำกัด และ ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป กล่าว “โรงแรมชื่อดังระดับโลก จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แหล่งพนันอีกมากมาย รวมทั้งบ่อนกาสิโนซึ่งกินพื้นที่ในโครงการพัฒนานี้ไม่ถึง 2% ทำให้เราภาคภูมิใจที่จะได้ส่งเสริมโคไท เซ็นทรัล ให้กลายเป็นแม่แบบของรัฐบาลสำหรับการพัฒนามาเก๊าในอนาคต"
การเปิดโรงแรมที่โคไท เซ็นทรัลจะช่วยสร้างงานที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจพนันอีกหลายพันตำแหน่ง เพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ธุรกิจการพนัน และขยายธุรกิจในสาขาต่างๆที่ไม่เกี่ยวกับการพนันให้เกิดขึ้นในมาเก๊า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการจัดประชุมและนิทรรศการ
คอนราด มาเก๊า ที่โคไท สตริป ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในเครือฮิลตัน เวิลด์ไวด์ มีกำหนดเปิดตัวที่โคไท เซ็นทรัล ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 โดยจะประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสวีทจำนวน 600 ห้อง ขณะที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ มาเก๊า ณ โคไท สตริป ในเครือไอเอชจี มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงปลายไตรมาสแรกปีหน้าเช่นกัน โดยจะประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสวีท 1,200 ห้อง
ทั้งนี้ ไอเอชจีเป็นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากจำนวนห้องพัก ปัจจุบันไอเอชจีมีโรงแรมตั้งอยู่ในกว่า 50 เมืองในประเทศจีน ส่งผลให้ไอเอชจีเป็นเครือโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศจีน (เกรเทอร์ ไชนา) ด้วยจำนวนโรงแรม 150 แห่งภายใต้ 5 แบรนด์ที่เปิดให้บริการแล้ว และโรงแรมอีกเกือบ 150 แห่งที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้ 1 ใน 4 ของโรงแรมที่ไอเอชจีวางแผนเปิดตัวในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้านั้นจะตั้งอยู่ในประเทศจีน