ธนาคารอัลฟา และธนาคารอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ เอสเอ ซึ่งเป็นสองธนาคารรายใหญ่ของกรีซ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ธนาคารทั้งสองวางแผนที่จะควบรวมกิจการกัน เพื่อจัดตั้งธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ ซึ่งข่าวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางวิกฤตหนี้สาธารณะที่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของกรีซนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2552
ก่อนหน้าที่จะควบรวมกิจการกันนั้น ธนาคารทั้งสองแห่งถือเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 และอันดับ 3 ของกรีซ เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์และทุนจดทะเบียน รองจากธนาคาร เนชันแนล แบงก์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการบริหารของธนาคารทั้งสองแห่งได้พิจารณาเงื่อนไขต่างๆในข้อตกลงการควบรวมกิจการอย่างรอบคอบแล้ว จึงประกาศในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารแห่งใหม่จะใช้ชื่อว่า "อัลฟา ยูโรแบงก์" โดยจะมีทรัพย์สินรวมกันเป็นมูลค่าสูงถึง 1.46 แสนล้านยูโร (2.112 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีทุนจดทะเบียนในตลาดราว 2.5 พันล้านยูโร (3.61 พันล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งใหม่จะมีสาขาต่างๆใน 8 ประเทศรวม 1,300 สาขา และมีพนักงานราว 30,000 คน และมีลูกค้ากว่า 8 ล้านราย อีกทั้งจะมีมาตรการกระตุ้นด้านเงินทุนใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนราว 3.9 พันล้านยูโร (5.65 พันล้านดอลลาร์) ผ่านการออกหุ้นกู้แปลงสภาพและการออกหุ้นใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนการสำนักงานการลงทุนของรัฐบาลกาตาร์
ทั้งนี้ กาตาร์ถือหุ้นอยู่ 5% ในธนาคารอัลฟา และคาดว่ากาตาร์จะถือหุ้นในธนาคารแห่งใหม่ที่ผ่านการควบรวมกิจการ ประมาณ 15%
รัฐบาลกรีซได้ออกมาขานรับข่าวการควบรวมกิจการดังกล่าว โดยคาดว่าความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะทำให้ภาคการธนาคารของกรีซมีการควบรวมกิจการกันมากขึ้นในอนาคต หลังจากที่ภาคการธนาคารของกรีซได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตหนี้สาธารณะ จนทำให้ภาคการธนาคารต้องพึ่งพาเงินทุนจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)