บริษัท ยาฮู อิงค์ ประกาศปลด นางแครอล บาร์ตซ์ จากการเป็นประธานเจ้หน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท พร้อมแต่งตั้งนายทิโมธี มอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ให้ดำรงตำแหน่งแทนเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแต่งตั้งซีอีโอถาวรคนใหม่
"ในนามของบอร์ดบริหาร ผมขอขอบคุณแครอลที่รับใช้ยาฮูในช่วงจุดเปลี่ยนของบริษัท รวมถึงช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งมีความท้าทายอย่างมาก" นายรอย บอสต็อก ประธานยาฮู กล่าว
ก่อนที่ยาฮูจะออกมาประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการ สำนักข่าวหลายแห่งและบล็อกต่างๆได้เผยแพร่อีเมลที่นางบาร์ตซ์ส่งให้กับพนักงานทุกคนในบริษัท ซึ่งมีเนื้อหาว่า "ถึงทุกคน ฉันเสียใจที่ต้องแจ้งว่า ประธานบอร์ดบริหารยาฮูเพิ่งโทรมาไล่ฉันออกจากบริษัท ฉันดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคน และขอให้ทุกคนโชคดี"
เมื่อเดือนมกราคมปี 2552 นางบาร์ตซ์ วัย 63 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอต่อจากนายเจอร์รี ยัง ผู้ร่วมก่อตั้งยาฮู ซึ่งในช่วงนั้นยาฮูกำลังแข่งขันอย่างดุเดือดกับกูเกิล อย่างไรก็ดี ยาฮูไม่เคยทำผลงานได้ดีเท่าที่คาดไว้ อย่างในไตรมาสล่าสุดซึ่งสิ้นสุดเดือนมิถุนายน ยาฮูก็มีรายได้สุทธิเพียง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5% จากปีก่อนหน้า
สำหรับนายมอร์ส วัย 42 ปี มาร่วมงานกับยาฮูในตำแหน่งรองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2552 และเขากล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราว
สำนักข่าวซินหัวรายงาน ยาฮูกำลังเริ่มสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งซีอีโอถาวรคนใหม่ และตั้งใจว่าจะจ้างบริษัทจัดหาบุคลากรชื่อดังระดับประเทศให้มาช่วยสรรหาผู้บริหารในครั้งนี้
หุ้นยาฮูปิดพุ่งขึ้น 5% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการปลดนางบาร์ตซ์ออกจากตำแหน่งซีอีโอ เนื่องจากนางบาร์ตซ์ไม่สามารถทำให้ธุรกิจยาฮูเติบโตได้ตามความคาดหมาย นอกจากนี้ นางบาร์ตซ์ยังไม่สามารถคลี่คลายปมขัดแย้งกับอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญของยาฮูในประเทศจีนด้วย