มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ป รายงานว่า กำไรสุทธิของบริษัทลดลง 2.4% ช่วงเดือนเมษายน-กันยายน เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 6.958 หมื่นล้านเยน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดทุนจากการตีราคาสินทรัพย์
ด้านกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทขยับขึ้น 0.6% แตะที่ 1.1361 แสนล้านเยน จากยอดขาย 1.74 ล้านล้านเยน หรือเพิ่มขึ้น 1.9% โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจระบบอัตโนมัติในโรงงานที่ขยายตัวขึ้นท่ามกลางอุปสงค์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ผลิตโดยระบบอัตโนมัติในโรงงานของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค
ยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการด้านพลังงานและระบบอิเล็กทรอนิกหลายโครงการ หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม แต่ได้ยอดขายอุปกรณ์อัตโนมัติในโรงงานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่เพิ่มขึ้นมาช่วยชดเชย
สำหรับธุรกิจอุปกรณ์อัตโนมัตินั้น บริษัทมียอดขายในประเทศลดลงหลังเกิดภัยพิบัติ แต่ยอดขายและยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศเช่น จีน และ อินเดีย ปรับตัวสูงขึ้น
พร้อมกันนี้ บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายตลอดปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม จาก 3.79 ล้านล้านเยน เหลือ 3.73 ล้านล้านเยน เนื่องจากเงินเยนแข็งค่า รวมถึงความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
นายฮิโรกิ โยชิมัตสึ ผู้บริหารบริษัท แถลงข่าวที่โตเกียวว่า "ปัจจัยลบดังกล่าวอาจทำให้ยอดขายในธุรกิจระบบอัตโนมัติเชิงอุตสาหกรรมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกปรับตัวลดลง"
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังตรึงคาดการณ์กำไรสุทธิและกำไรจากการดำเนินงานสำหรับตลอดปี 2554 ไว้ที่ 1.35 แสนล้านเยน และ 2.4 แสนล้านเยนตามลำดับ เนื่องจากบริษัทมีแผนใช้มาตรการปรับปรุงธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการลดต้นทุนในด้านต่างๆ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน