บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย จำกัด ในฮ่องกง ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส จำกัดในประเทศออสเตรเลีย เริ่มดำเนินกระบวนการทางกฎหมายเพื่อยื่นฟ้องรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว โดยได้แจ้งการใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการภายใต้สนธิสัญญาการลงทุนทวิภาคีของออสเตรเลียกับฮ่องกง หลังจากที่รัฐสภาออสเตรเลียได้ผ่านกฎหมายที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ต้องบรรจุซองแบบเรียบ
แอน เอ็ดเวิร์ดส์ โฆษกฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย กล่าวในแถลงการณ์ของฟิลลิป มอร์ริส เอเชียว่า “เราไม่มีทางเลือก รัฐบาลผ่านกฎหมายฉบับนี้ทั้งๆที่ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยลดการสูบบุหรี่ลงได้อย่างไร อีกทั้งยังเพิกเฉยต่อความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นทั้งในออสเตรเลียและนานาประเทศเกี่ยวกับประเด็นร้ายแรงทางกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ซองเรียบ"
ฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ต้องการให้ระงับกฎหมายดังกล่าว พร้อมเรียกร้องค่าชดเชยจำนวนมากอันเนื่องมาจากบรรจุภัณฑ์ซองเรียบที่สร้างความเสียหายต่อเครื่องหมายการค้าและการลงทุนมูลค่ามหาศาลของบริษัทในออสเตรเลีย บริษัทประเมินมูลค่าความเสียหายไว้หลายพันล้านดอลลาร์ และคาดว่ากระบวนการทางกฎหมายจะใช้เวลา 2-3 ปี
“เรามั่นใจว่า ข้อโต้แย้งทางกฎหมายของเรามีน้ำหนักมาก และเราจะชนะคดีนี้ในที่สุด" แอน เอ็ดเวิร์ดส์กล่าว
สำหรับฟิลลิป มอร์ริส ได้สร้างแบรนด์บุหรี่ชื่อดังมากมาย ซึ่งรวมถึงแบรนด์อันดับ 1 อย่าง มาร์ลโบโร (Marlboro) โดยบริษัทมองว่า ซองแบบเรียบจะเปลี่ยนให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการปล้นศักยภาพของในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ จึงเป็นการทำลายมูลค่าการลงทุนของฟิลลิป มอร์ริส เอเชีย ในออสเตรเลีย