ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 11.4% ในเดือนมกราคม นับว่าเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว โดยค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นและสหรัฐต่างมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) มียอดขายลดลง
บริษัทวิจัย ออโตดาต้า คอร์ป รายงานว่า ยอดขายรถใหม่ทั้งหมดในเดือนมกราคมอยู่ที่ 913,287 คัน โดยจีเอ็มมียอดขาย 167,962 คัน หรือลดลง 6.1% นับว่าหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี จีเอ็มยังคงครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์สหรัฐ ด้วยส่วนแบ่งในตลาด 18.4% ตามมาด้วยฟอร์ด มอเตอร์ ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 7.3% แตะที่ 136,294 คัน และครองส่วนแบ่งในตลาด 14.9%
ขณะเดียวกันโตโยต้ายังครองอันดับ 3 ในตลาดสหรัฐด้วยยอดขาย 124,540 คัน เพิ่มขึ้น 7.5% และมีส่วนแบ่งตลาด 13.6% ตามมาด้วยไครส์เลอร์ กรุ๊ป ที่ยอดขายพุ่งขึ้น 41.5% แตะที่ 99,238 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10.9% และฮอนด้า มอเตอร์ ที่ขายรถได้ 83,009 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% ด้วยส่วนแบ่งในตลาด 9.1%
ฮอนด้า ซึ่งมียอดขายชะลอตัวอันเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ขณะที่โตโยต้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน ส่งสัญญาณว่าบริษัทสามารถก้าวข้ามผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
ยอดขายรวมของ 3 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.3% แตะที่ 403,494 คัน คิดเป็นสัดส่วน 44.2% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมดในสหรัฐในเดือนมกราคม ลดลงจาก 46.6% ในเดือนธันวาคม
ส่วนค่ายรถญี่ปุ่นอื่นๆนั้น นิสสัน มอเตอร์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 10.4% แตะที่ 79,313 คัน ขณะที่ ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ เจ้าของแบรนด์ซูบารุ มียอดขายทะยาน 20.9% แตะที่ 22,807 คัน และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ป ยอดขายพุ่ง 68.2% แตะที่ 23,996 คัน
อย่างไรก็ดี มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ยอดขายลดลง 17.6% แตะที่ 4,711 คัน และซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป ยอดขายร่วงลง 41.3% แตะที่ 1,505 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน