ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดเกือบทรงตัว หลังจากที่ดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ขณะที่บรรดาผู้นำทางการเมืองของกรีซยังคงเดินหน้าหารือเรื่องมาตรการลดการใช้จ่าย เพื่อปูทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือครั้งใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 2.80 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 12,875.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.79 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 1,347.84 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 3.15 จุด หรือ 0.11% ที่ 2,907.23 จุด
นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอสของกรีซ เตรียมหารือกับบรรดาผู้นำพรรคการเมืองเพื่อทำข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่ตามที่กลุ่มผู้ปล่อยกู้ระหว่างประเทศเรียกร้อง หลังจากที่เลยกำหนดเส้นตายมาหลายครั้ง โดยไม่มีข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ มีความวิตกในตลาดว่าการผิดนัดชำระหนี้อย่างไม่เป็นระบบของกรีซจะฉุดรั้งภูมิภาคยูโรโซนให้ถลำสู่ภาวะถดถอย และจะกระทบการฟื้นตัวของสหรัฐ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงในนาทีสุดท้ายเพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งเลวร้าย
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค.