สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์วานนี้ว่า อัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะอยู่ในระดับสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในช่วงหลายปีข้างหน้านี้
นายโทนี่ ไทเลอร์ ผู้อำนวยการและซีอีโอของ IATA กล่าวว่า ในปี 2553 มีผู้โดยสารสัดส่วน 1 ใน 3 ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด เดินทางไปกลับหรือเดินทางภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่จำนวนผู้โดยสารในยุโรปและอเมริกาเหนืออยู่ที่ 31%
"แต่ถ้าคาดว่าภายในปี 2558 นี้ เอเชียแปซิฟิกจะมีจำนวนผู้โดยสารถึง 37% ของจำนวนผู้โดยสารโดยรวม ขณะที่จำนวนผู้โดยสารในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือจะลดลงไปอยู่ที่ 29%" นายไทเลอร์กล่าวต่อที่ประชุมด้านขนส่งทางอากาศ ระหว่างงานสิงคโปร์ แอร์โชว์ 2555
ทางสมาคมตั้งเป้ายอดผู้โดยสารเดินทางทางอากาศไว้กว่า 3.55 พันล้านคนในปี 2558 ซึ่งมากกว่าปี 2550 ถึง 877 ล้านคน โดยผู้โดยสาร 212 ล้านคนเป็นของจีน
"ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นตัวขับเคลื่อนของการเติบโตทั่วโลก อีกทั้งยังมีศักยภาพสูงมาก" นายไทเลอร์กล่าว
องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินว่า ในปี 2552 จะมีผู้มีรายได้ระดับปานกลางทั่วโลกราว 1.8 พันล้านคน ที่มีรายได้วันละ 10-100 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้ 500 ล้านคนอยู่ในเอเชียแปซิฟิก และในปี 2573 จะมีผู้มีรายได้ปานกลางทั่วโลก 4.9 พันล้านคน โดย 66% หรือ 3.2 พันล้านคนอยู่ในเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ ในแต่ละปี ประชากรในสหรัฐจะโดยสารเครื่องบินโดยเฉลี่ย 1.8 ครั้ง ส่วนประชากรในเยอรมนีโดยสารเครื่องบินเฉลี่ย 1 ครั้งเท่านั้น
ส่วนในจีน ประชากรเดินทางโดยเครื่องบินเฉลี่ย 0.2 ครั้ง และในอินเดียเพียง 0.1 ครั้งเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว ประชากรจะเดินทางโดยเครื่องบิน 1 ครั้งต่อปี หากรายได้เฉลี่ยต่อปีเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ
"คาดว่าจีนจะมีจำนวนครั้งในการเดินทางโดยเครื่องบินในระดับนี้ภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกเป็นพันล้านคน" นายไทเลอร์กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน