บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส โค (จีเอ็ม) เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2554 แต่อย่างไรก็ดี ปัญหาในยุโรปส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลง รวมทั้งตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายในปี 2555
แถลงการณ์ของจีเอ็มระบุว่า กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 ของบริษัทอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.6 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.89 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปี 2553
แดน อาเคอร์สัน ประธานและซีอีโอของจีเอ็ม กล่าวว่า จีเอ็มจะเพิ่มผลประกอบการ ในขณะที่บริษัทได้ผลิตรถยนต์ รถครอสโอเวอร์ และรถปิกอัพ รุ่นใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน บริษัทประกาศว่ามีกำไรก่อนหักค่าดอกเบี้ยและภาษีในตลาดอเมริกาเหนือที่ 7.2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2554 ในขณะที่ขาดทุน 700 ล้านดอลลาร์ในตลาดยุโรป
สำหรับในอนาคตนั้น จีเอ็มคาดว่าจะปรับปรุงเรื่องการกำหนดราคาอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับการควบคุมเงินเฟ้อจากต้นทุน ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและค่าใช้จ่ายด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนการใช้จ่ายด้านทุนในปี 2555 คาดว่า จะอยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทจะเดินหน้าการลงทุนในเชิงรุกในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ
ทั้งนี้ จีเอ็มระบุว่า ยอดขายของบริษัทลดลง 6% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ยื่นคุ้มครองตามกฎหมายการล้มละลายต่อศาลในปี 2552 ในขณะที่กระทรวงการคลังของสหรัฐยังคงมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นในบริษัท 26% สำนักข่าวซินหัวรายงาน