จีเอ็มสามารถทำยอดขายรถยนต์ในเดือนก.พ.ได้เพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 209,306 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 18.2% ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยฟอร์ด มอเตอร์ ที่ทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 14.3% สู่ระดับ 178,644 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 15.5%
อันดับที่ 3 ยังคงเป็นของโตโยต้า มอเตอร์ ที่สามารถทำยอดายได้เพิ่มขึ้น 12.4% สู่ระดับ 159,423 คัน ส่วนอันดับ 4 เป็นของไครส์เลอร์ กรุ๊ป ซึ่งทำยอดขายเพิ่มขึ้น 37% แตะที่ 130,294 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 11.3% และอันดับ 5 คือฮอนด้า มอเตอร์ ที่ทำยอดขายได้ 110,157 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 9.6%
ส่วนยอดขายโดยรวมของผู้ผลิตรถยนต์กลุ่ม "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ (จีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์) เพิ่มขึ้น 13.4% แตะระดับ 518,244 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมกันที่ 45.1% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ 44.2%
สำหรับยอดขายรถยนต์ของบริษัทอื่นๆในญี่ปุ่นนั้น ยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 15.5% แตะที่ 106,731 คัน ยอดขายของมาสด้า มอเตรอ์ เพิ่มขึ้น 32.3% แตะที่ 25,651 คัน ขณะที่ยอดขายของฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี ผู้ผลิตรถแบรนด์ "ซูบารุ" ดีดตัวขึ้น 17% แตะที่ 25,374 คัน ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 31.3% แตะที่ 4,736 คัน และยอดขายของซูซูกิ มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 47.6% แตะที่ 2,425 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน