ค่าเงินสกุลยูโรปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่าถึงการหดตัวลงของเศรษฐกิจยุโรปในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวของภูมิภาคยุโรปอยู่ในภาวะย่ำแย่จากผลกระทบของวิกฤติหนี้ที่ลุกลาม
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.3% มาอยู่ที่ 106.42 เยน ณ เวลา 07.01 น. ตามเวลานิวยอร์ก และปรับตัวลง 0.6% สู่ระดับ 1.3134 ดอลลาร์ หลังดิ่งลงต่ำถึงระดับ 1.3131 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนแรงล 0.7% ที่ 81.03 เยน
ยูโรสแตทเปิดเผยว่า เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนและทั้งอียูได้หดตัวลง 0.3% ทั้งในไตรมาสสุดท้ายปี 2554 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ของยูโรสแตท แม้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนยังคงขยายตัว 1.4% ในปี 2554 ซึ่งลดลงจาก 1.9% ที่ขยายตัวในปี 2553
ยูโรสแตทระบุว่าสาเหตุที่เศรษฐกิจหดตัวลงดังกล่าว เกิดจากการลดลงของการบริโภคในภาคครัวเรือน การส่งออก และ การนำเข้าของยุโรป
ข้อมูลของยูโรสแตทดังกล่าวเป็นการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนยังอยู่ในภาวะเปราะบาง ท่ามกลางวิกฤติหนี้ภูมิภาคที่ยืดเยื้อ หลังจากเมื่อวานนี้ มาร์กิต อิโคโนมิกก็เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการของประเทศในยูโรโซน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.3 จุดในเดือนก.พ. โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการหดตัวลง