ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถใหม่ในตลาดสหรัฐประจำเดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% สู่ระดับ 1,184,447 คัน ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยังคงเป็นค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายอันดับ 1 แม้ยอดขายของบริษัทปรับตัวลดลงในเดือนเม.ย.ก็ตาม
จีเอ็มมียอดขายรถยนต์ในเดือนเม.ย.ลดลง 8.2% มาอยู่ที่ระดับ 213,387 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 18% ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยฟอร์ด มอเตอร์ ที่ทำยอดขายลดลง 5.1% แตะที่ 179,658 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 15.2%
อันดับที่ 3 ยังคงเป็นของโตโยต้า มอเตอร์ ที่สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 11.6% สู่ระดับ 178,044 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 15% ส่วนอันดับ 4 เป็นของไครส์เลอร์ กรุ๊ป ซึ่งทำยอดขายเพิ่มขึ้น 18% แตะที่ 137,316 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 11.6% และอันดับ 5 คือฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งทำยอดขายลดลง 2.2% แตะที่ 122,012 คัน ส่วนยอดขายโดยรวมของผู้ผลิตรถยนต์กลุ่ม "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ (จีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์) ปรับตัวลดลง 1.5% มาอยู่ที่ระดับ 530,361 คัน มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันที่ 44.8%% เพิ่มขึ้นจากระดับ 43.7% ของเดือนมี.ค.
สำหรับยอดขายรถยนต์ของบริษัทอื่นๆในญี่ปุ่นนั้น ยอดขายของนิสสัน มอเตอร์ ลดลง 0.3% แตะที่ 71,329 คัน ขณะที่ยอดขายของฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี ผู้ผลิตรถแบรนด์ "ซูบารุ" ดีดตัวขึ้น 6.3% แตะที่ 26,310 คัน ยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 34.7% แตะที่ 5,280 คัน ยอดขายของซูซูกิ มอเตอร์ ลดลง 16.8% แตะที่ 1,774 คัน ยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 4.2% แตะที่ 21,506 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน