กลุ่มบิสซิเนส ซอฟต์แวร์ อัลลายแอนซ์ (บีเอสเอ) เปิดเผยว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอย่างต่ำ 63% ยอมรับว่าใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยมีประเทศจีนเป็นประเทศที่มี “ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุด"
ผลการศึกษาเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ทั่วโลกระบุว่า โปรแกรมที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในเอเชียแปซิฟิกติดตั้งมากกว่า 3 ใน 5 เป็นโปรแกรมที่ไม่มีใบอนุญาต
รายงานดังกล่าวยังบ่งชี้ว่า มูลค่าเชิงพาณิชย์ของซอฟต์แวร์ไร้ใบอนุญาตที่ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในภูมิภาค ดังกล่าวเพิ่มขึ้น 12% สู่เกือบ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2554 ขณะที่การขยายตัวทั่วโลกอยู่ที่ 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์
บีเอสเอระบุว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ถือเป็นช่องโหว่ของเศรษฐกิจทั่วโลก นวัตกรรมไอที และการสร้างงาน ดังนั้น รัฐบาลของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและประเทศอื่นๆ ควรปรับปรุงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาให้ทันสมัย และควรเพิ่มความพยายามในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จะได้รับโทษอย่างแท้จริง
“ถ้าผู้บริโภค 63% ยอมรับว่ามีการขโมยของในร้านค้าเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการเพิ่มกำลังตำรวจสายตรวจและบทลงโทษ เช่นเดียวกัน การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์ก็ต้องการการตอบสนองในแบบที่คล้ายกัน โดยจะต้องมีการให้การศึกษาแต่สาธารณชนร่วมกัน และต้องมีการออกกฎหมายที่รัดกุม" นายโรแลนด์ ชาน ผู้อำนวยการระดับสูงด้านการตลาดในเอเชียแปซิฟิคของบีเอสเอกล่าว
รายงานฉบับดังกล่าวบ่งชี้ว่า จีน “มีแนวโน้มที่จะแซงหน้าอเมริกาในเรื่องมูลค่าเชิงพาณิชย์ของการละเมิดลิขสิทธิ์ ถึงแม้ว่าจีนจะมีตลาดซอฟต์แวร์ที่ถูกกฎหมายในขนาดเพียง 1 ใน 15 ของอเมริกาก็ตาม"
ตลาดซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในจีนมีมูลค่าเกือบ 9 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายมีมูลค่าเพียง 3 พันล้านดอลลาร์
ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าปัญหาดังกล่าวยิ่งเด่นชัดขึ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยอินโดนีเซียมีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ในปีที่แล้ว 86%, เวียดนาม 81%, ไทย 72%, ฟิลิปปินส์ 70%, อินเดีย 63% และมาเลเซีย 55% เทียบกับอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ของเกาหลีใต้ที่ 40%, ไต้หวัน 37%, สิงคโปร์ 33%, ออสเตรเลีย 23%, นิวซีแลนด์ 22% และญี่ปุ่น 21%
ทั้งนี้ อเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดที่มียอดจำหน่ายซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายเกือบ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ มีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์น้อยที่สุดในโลกเพียง 19% แต่เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มูลค่าเชิงพาณิชย์ของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้เพิ่มสู่ระดับเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ บีเอสเอรายงาน
นอกจากการสำรวจผู้ใช้คอมพิวเตอร์แล้ว วิธีการศึกษายังได้รวมถึง “การเก็บรวบรวมการป้อนข้อมูลแยกกัน 182 ครั้ง และการประเมินแนวโน้มของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและซอฟต์แวร์ในตลาด 116 แห่ง"