ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถใหม่ในตลาดสหรัฐในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 พุ่งขึ้น 14.8% แตะระดับ 7,272,160 คัน ทำสถิติเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 7 ล้านคันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ส่วนยอดขายรถยนต์ใหม่โดยรวมในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 22.1% แตะที่ 1,285,555 คัน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐและญี่ปุ่น หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิซึ่งเกิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ยังคงเป็นค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 1,315,713 คัน เพิ่มขึ้น 4.3% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยมีส่วนแบ่งตลาด 18.1% ขณะที่ยอดขายเดือนมิ.ย.ของจีเอ็มเพิ่มขึ้น 15.5% แตะที่ 248,750 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรายเดือนนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551 ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยฟอร์ด มอเตอร์ ที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 6.6% แตะที่ 1,140,383 คัน ขณะยอดขายเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.1% แตะที่ 207,204 คัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 16.1%
อันดับที่ 3 ยังคงเป็นของโตโยต้า มอเตอร์ ที่สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 28.7% แตะที่ 1,046,096 คันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ยอดขายในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 177,795 คัน พุ่งขึ้น 87.3% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 13.8% ในเดือนมิ.ย.
ยอดขายโดยรวมของผู้ผลิตรถยนต์กลุ่ม "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ (จีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.2% แตะที่ 596,761 คัน มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันที่ 46.4%
สำหรับยอดขายรถยนต์ของบริษัทอื่นๆของญี่ปุ่นนั้น ฮอนด้า มอร์เตอร์มียอดขาย 700,982 คัน เพิ่มขึ้น 15.4% และนิสสัน มอเตอร์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 14.4% แตะที่ 577,721 คัน ขณะที่ยอดขายของฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุ พุ่งขึ้น 40% แตะที่ 27,702 คัน ยอดขายของมาสด้า มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 3.1% แตะที่ 19,911 คัน ยอดขายของซูซูกิ มอเตอร์อยู่ที่ 2,299 คัน เพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนยอดขายของมิตซูบิชิ มอเตอร์ ลดลง 34.8% แตะที่ 5,411 คัน