บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทจะปรับลดยอดผลิตรถยนต์ภายในประเทศในไตรมาสที่ 4 ลงมากกว่า 10% จากไตรมาสที่ 3 สู่เกือบ 12,500 คันต่อวัน เพื่อให้สอดคล้องกับคาดการณ์ยอดขายที่ปรับลดลง หลังมีการคาดการณ์ว่า แผนการให้เงินอุดหนุนรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทางรัฐบาลอาจจะยุติลงในเดือนหน้า
แผนการปรับลดครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนที่ยอดการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าลดลงต่ำกว่า 13,000 คันต่อวัน นับตั้งแต่บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
แผนการปรับลดการผลิตล่าสุดของโตโยต้า อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตรถยนต์โดยรวมของประเทศที่กำลังกระเตื้องขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมี.ค. 2554 และเหตุน้ำท่วมในไทย
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 เพิ่มสูงขึ้น 83% จากปีก่อนสู่เกือบ 917,000 คัน โดยได้รับแรงกระตุ้นจากยอดขายดีในรถยนต์ไฮบริด ซึ่งโตโยต้ายังคงรักษายอดการผลิตภายในประเทศไว้ที่ 3.4 ล้านคันต่อปี
เนื่องจากแผนการให้เงินอุดหนุนรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลอาจจะยุติลงในเร็วๆ นี้ และภาษีการบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น อุตสาหกรรมรถยนต์ได้เรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและเป็นเจ้าของรถยนต์
บางบริษัทเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินแผนให้การช่วยเหลือต่อไป หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลประกาศใช้แผนให้เงินอุดหนุนตั้งแต่แรก เนื่องจากบริษัทต่างๆ วิตกว่า จะต้องย้ายฐานการผลิตภายในประเทศไปสู่ต่างประเทศ เพื่อรองรับผลกระทบจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของกลุ่มบริษัทโตโยต้าจะเพิ่มขึ้นสู่ 4.97 ล้านคันในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2555 แต่บริษัทต้องเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ให้แก่เจเนอรัล มอเตอร์ส จากสหรัฐ ซึ่งขึ้นครองอันดับ 1 ในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้โตโยต้าต้องกระตุ้นยอดขายในตลาดอเมริกาเหนือและเอเชีย ในขณะที่ต้องพยายามประคองไม่ให้ยอดขายภายในประเทศลดต่ำลงไปอีก เพื่อรักษาอันดับไปตลอดทั้งปีนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน