รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบกลยุทธ์การเติบโตทางเศรษฐกิจแผนใหม่ที่มีเป้าหมายหลากหลายด้านสำหรับปี 2563 ทั้งการกระตุ้นอัตราส่วนของรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ และการเพิ่มข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆเป็น 80%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลยุทธ์การฟื้นฟูนี้มุ่งไปที่ภาคสิ่งแวดล้อม การแพทย์ และปฐมภูมิเพื่อเพิ่มการลงทุนในอีกสามปีข้างหน้าให้มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)โดยเฉลี่ยที่ 3% ตามที่ตั้งไว้ และ 2% ตามความเป็นจริงตลอดปีงบประมาณ 2563 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2564
กลยุทธ์ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภานี้จะได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้จากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะที่ต้องเผชิญกับการต่อสู้กับภาวะเงินฝืดเรื้อรังของประเทศ ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ว่า ญี่ปุ่นมีแผนทางการเงินในการดำเนินการกลยุทธ์ใหม่อย่างไร ในขณะที่การคลังกำลังอยู่สภาวะที่ไม่ค่อยดีนัก
โดยกลยุทธ์ประมาณการณ์ว่ารัฐบาลจะสามารถสร้างตลาดใหม่ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านล้านเยน ในกลุ่มสิ่งแวดล้อม พลังงาน การแพทย์และสาธารณสุข หรือการท่องเที่ยวเป็นต้น รวมไปถึงสร้างตำแหน่งงานใหม่ได้อีกกว่า 4.8 ล้านงาน
ญี่ปุ่นสนับสนุนให้ใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถไฮบริด หรือ รถพลังงานไฟฟ้า ด้วยหวังว่าจะกระตุ้นส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ใหม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในปี 2563
เจ้าหน้าที่ของรัฐเปิดเผยว่า การปรับปรุงศักยภาพของการเก็บแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถประเภทดังกล่าวยังเป็นจุดที่ติดขัดอยู่และรัฐบาลก็จะสนับสนุนให้บริษัทญี่ปุ่นเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับการเก็บแบตเตอรี่และทำให้ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งตลาดครึ่งหนึ่งของตลาดโลกซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านเยน (127 ดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ ในด้านสิ่งแวดล้อม ญี่ปุ่นจะพยายามเพิ่มสัดส่วนของบ้านสร้างใหม่ที่ได้มาตรฐานประหยัดพลังงานของญี่ปุ่นจาก 40% เป็น 100%