เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกคืนที่บรรดาสาวกสินค้าไอทีในบ้านเราและทั่วโลกจับตาดูงาน Apple Special Event ซึ่งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิ้ล อิงค์ ซึ่งรวมถึง iPad mini แท็บเล็ตใหม่จากแอปเปิ้ลที่มีขนาดบางและเล็กลงกว่าเดิม หลังจากที่หลายเดือนก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวลือออกมาอย่างหนาหูว่า จะมีการเปิดตัว iPad ขนาดเล็ก In Focus วันนี้จึงขอพามารู้จักที่มาและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับ iPad mini
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในวันอังคารที่ 16 ตุลาคม แอปเปิ้ลส่งคำเชิญให้แก่สื่อมวลชนเพื่อเข้าร่วมงานเปิดตัวของแอปเปิ้ล ที่โรงละคร California Theatre เมือง ซาน โฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2555 เวลา 10.00 น. (เที่ยงคืนของวันที่ 24 ตุลาคม ตามเวลาในบ้านเรา) โดยการ์ดที่แอปเปิ้ลแจกให้แก่สื่อไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า และทิ้งท้ายเพียงสั้นๆว่า “We’ve got little more to show you" ซึ่งกระพือกระแสคาดการณ์ว่าจะเป็นการเปิดตัว iPad mini อย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงต้นเดือนก็มีรายงานว่า บรรดาซัพพลายเออร์ของแอปเปิ้ล อาทิ LG Display และ AI Optronics ผู้ผลิตจอแอลซีดีชั้นนำในเอเชีย เริ่มเดินหน้าการผลิตหน้าจอแอลซีดีสำหรับอุปกรณ์ชิ้นใหม่ของแอปเปิ้ลในเดือนก.ย.แล้ว
สถานที่เปิดตัว iPad mini จัดขึ้นที่ California Theatre เมืองซาน โฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่เปิดตัว iPod รุ่นแรกๆ ได้แก่ iPod photo และ U2 iPod รุ่น Special edition ในปี 2547 และเป็นสถานที่เปิดตัว Video iPod ในปี 2548 โรงละคร California Theatre ซึ่งมีความจุทั้งหมด 1,100 ที่นั่ง เป็นสถานที่แสดงละครเวทีของคณะ Opera San Hose อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงดนตรีของวงออเคสตรา Symphony Silicon Valley รวมทั้งเป็นสถานที่จัดเทศกาลภาพยนตร์ Cinequest Film Festival ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี
ขณะเดียวกันก็มีการคาดการณ์ถึงสาเหตุที่แอปเปิ้ลเลือกใช้ California Theatre เปิดตัว iPad mini เมื่อคืนนี้ บางกระแสระบุว่า แอปเปิ้ลเพียงแค่ต้องการเปลี่ยนสถานที่จัดให้อยู่ใกล้ๆ Yerba Buena Center for the Arts ในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสถานที่เปิดตัว iPhone 5 ในวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา บางกระแสก็ระบุว่า แอปเปิ้ลต้องการเปลี่ยนสถานที่จัดงานที่มีผู้คนคุ้นเคยมากขึ้นและมีขนาดเวทีทีใหญ่กว่า ขณะเดียวกัน ก็ยังมีกระแสคาดการณ์ว่า สาเหตุที่แอปเปิ้ลเลือกใช้ California Theatre ในการเปิดตัว iPad mini ครั้งนี้ก็เพราะแอปเปิ้ลเคยใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อเปิดตัวสินค้าประเภทให้ความบันเทิง อย่างเช่น iPod Photo และ iPod Video หากแอปเปิ้ลใช้ California Theatre ในการเปิดตัว iPad mini ตามสมมติฐานดังกล่าว ก็อาจเปรยให้เห็นถึงแนวทางที่แอปเปิ้ลจะทำตลาดให้กับแท็บเล็ตรุ่นนี้ และบ่งชี้ถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อที่แอปเปิ้ลกำหนดไว้ด้วย
สำหรับชื่อของแท็บเล็ตรุ่นใหม่จากทางแอปเปิ้ลนั้นก่อนหน้านี้ก็เคยมีคาดการณ์ชื่อ iPad รุ่นใหม่อยู่ 2 ชื่อได้แก่ iPad mini และ iPad Air จากลักษณะและรูปลักษณ์ที่บางลง
ทางด้านข่าวลือและภาพหลุดของ iPad mini ก่อนหน้านี้ก็มีออกมาเช่นกัน ในบรรดาภาพหลุดที่น่าสนใจคือรูป dock connector (ซึ่งเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และเพื่อชาร์จไฟนั้น) จุดที่น่าสนใจคือ dock connector ที่แตกต่างจาก iPad รุ่นก่อนๆ เป็นส่วนเชื่อมต่อแบบ 8 pin และคาดว่าน่าจะเป็น dock connector รูปแบบใหม่ที่ใช้กับ iPad mini นอกจากนี้ยังมีภาพหลุดแบตเตอรี่ที่อ้างว่าเป็นของ iPad mini มีกำลังไฟ 3.72 โวลต์ , 4490 mAh และ 16.7 วัตต์ต่อชั่วโมง (Whr) เทียบกับ the new iPad แล้วมีการใช้กำลังไฟ 42.5 Whr ซึ่งถือว่า iPad mini นั้นกินไฟน้อยกว่า iPad รุ่นปัจจุบันถึง 2.5 เท่า
ทางด้านรูปทรงเครื่อง ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดในส่วนฝาหน้าซึ่งแสดงให้เห็นถึงหน้าจอความยาว 7.85 นิ้ว มีช่องตรงกลางล่างสำหรับปุ่มโฮม และช่องตรงกลางด้านบนสำหรับกล้องหน้า Facetime camera ขณะที่ภาพหลุดของฝาหลังนั้น เผยให้เห็นช่องเสียบหูฟังบนซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับ iPad รุ่นก่อน ช่องสำหรับกล้องหลัง iSight Camera ด้านซ้ายบน รวมถึงปุ่มเพิ่มลด ปิดเสียงที่ด้านขวาบนด้วย สำหรับหน้าจอก็มีรายงานข่าวอ้างว่าใช้เทคโนโลยี Liquid Crystal Display (แอลซีดี) ซึ่งมีความคมชัดน้อยกว่า the new iPad และใช้ซีพียู Apple A5
ภายหลัง iPhone 5 ซึ่งเป็นสินค้าของแอปเปิ้ลที่เปิดตัวเมื่อไม่นานนี้ในเดือนกันยายนที่มาภาพหลุดจำนวนมากที่ตรงกับสินค้าตัวจริง ก็ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าการเปิดตัว iPad mini ในครั้งนี้จะตรงกับข่าวที่หลุดออกมาเช่นกัน โดยขนาดหน้าจอของจริงอยู่ที่ 7.9 นิ้วต่างจากข่าวลือซึ่งอยู่ที่ 7.85 นิ้วเพียงเล็กน้อย ขณะที่ข่าวลือกับข้อเท็จจริงที่ตรงกันมีจำนวนมากอาทิ dock connector รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “lighting connector" แบบ 8 pin ซึ่งนอกจากจะมีใน iPad mini แล้วก็ยังมีใน iPhone 5 ด้วย ขณะเดียวกันซีพียูที่มีอยู่ใน iPad mini คือ Apple A5 ซึ่งตรงกับข่าวลือก่อนหน้าเช่นกัน
นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังเปิดเผยข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับ iPad mini อาทิ ตัวเครื่องมีความบาง 7.2 มิลิเมตร บางกว่า iPad รุ่นปกติถึง 23% โดยแอปเปิ้ลระบุว่า iPad mini มีความบางเท่าดินสอ และมีน้ำหนักเบา 0.68 ปอนด์ (308 กรัม) ซึ่งเบากว่า iPad รุ่นธรรมดาถึง 53% ขณะที่แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 ชั่วโมงเท่ากับ iPad รุ่นก่อนๆ ขณะเดียวกันก็ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 6 สำหรับกล้องใน iPad mini จะมี 2 ตัว ตัวแรกเป็นกล้องหน้าเรียกว่า Facetime HD Camera สามารถบันทึกวีดิโอ HD ความละเอียด 720 P และกล้องหลังเรียกว่า iSight Camera มีความละเอียด 5 ล้านเมกาพิกเซล สามารถบันทึกวีดิโอ HD ความละเอียด 1080 P โดยกล้องทั้ง 2 ตัวสามารถใช้วีดิโอคอลของแอปเปิลที่เรียกว่า “Facetime" ได้ สำหรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อนั้นรองรับเทคโนโลยี Ultrafast Wireless ที่รองรับการใช้งานได้สูงสุด 150 Mbps สำหรับรุ่นที่รองรับซิมการ์ด สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณโทรศัพท์ (Cellular data) ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 4G LTE
ในการเปิดตัวเมื่อคืนนี้ แอปเปิ้ลยังชูความเหนือกว่าของ iPad mini เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นเล็กอื่นๆในตลาด โดยแอปเปิ้ลอ้างว้างด้วยความกว้าง 7.9 นิ้วของหน้าจอ iPad mini นั้นทำให้มีพื้นที่แสดงผล 29.6 ตารางนิ้ว ซึ่งมากกว่ามากกว่าแทบเล็ตแอนดรอยด์ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งมีเนื้อที่แสดงผลเพียง 21.9 ตารางนิ้วเท่านั้น สำหรับความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 1024x768 พิกเซล ซึ่งเท่ากับ iPad รุ่นแรกและ iPad 2
ย้อนไปในปลายปี 2553 สตีฟ จ็อบส์ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิ้ล อิงค์ และขณะนั้นดำรงตำแหน่งซีอีโอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เห็นด้วยหากจะทำ iPad ที่มีขนาดเล็กกว่า 9.7 นิ้วเนื่องจากจะจับไม่ถนัดมือ หากจำต้องทำรุ่นที่เล็กกว่านั้น ก็ต้องมาพร้อมกับกระดาษทราย เพื่อเอาขัดมือแล้วนิ้วให้เล็กลงเพื่อจะได้ปาดและถ่างภาพบนหน้าจอให้ถนัดมือ แต่แล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Eddy Cue หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิ้ลได้เปิดเผยว่า จ็อบส์รับได้หากแอปเปิ้ลจะทำ iPad ที่มีขนาดเล็กลง โดยข้อมูลดังกล่าวอยู่ในอีเมล์ที่ Cue ส่งไปให้ผู้บริหารในเดือนมกราคม 2554 ซึ่งรวมถึงทิม คุก เพื่อเสนอให้ทางบริษัทออก iPad ที่มีขนาดเล็กลง
การเปิดตัว iPad mini ของแอปเปิ้ลถูกจับตามองว่าเป็นการความเคลื่อนไหวของแอปเปิ้ลเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้แก่ กูเกิ้ล ซัมซุง อเมซอน และอื่นๆ หลังมีข้อมูลระบุว่า แอปเปิ้ลมีส่วนแบ่งในตลาดลดลง โดยมีผลสำรวจระบุว่าแอปเปิ้ลมีส่วนแบ่งในตลาดแท็บเล็ตสหรัฐลดลง จากเดิมอยู่ที่ 81% ในปี 2554 เหลือเพียง 52% ในปีนี้ บ่งชี้ว่า ตลาดให้การยอมรับและซื้อแท็บเล็ตเจ้าอื่นๆมากขึ้น ซึ่งในนั้นก็รวมถึงแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วที่เหมาะสมสำหรับการพกพาเนื่องจากมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
ถึงแม้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ของแอปเปิ้ลจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากบริษัทคู่แข่งในสัปดาห์นี้ โดยในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 8 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเนื่องจากจะใช้กับคอมพิวเตอร์แล้วยังจะใช้กับแท็บเล็ต Surface ของไมโครซอฟท์ด้วย และในวันที่ 29 ตุลาคม ทางกูเกิ้ลก็จะจัดงาน Android เช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Nexus 10 จากซัมซุง, แท็บเล็ต Nexus 7 รุ่น 32 GB (จากเดิมมีเพียงรุ่น16 GB) และโทรศัพท์มือถือ Nexus 4 ซึ่งคาดว่าผู้ผลิตจะมาจากฝั่ง LG ขณะเดียวกันก็คาดว่ากูเกิ้ลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android 4.2 โค้ดเนม “Jelly Bean" อีกด้วย