ผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ด้วยเทคโนโลยี ENLITEN มีคุณสมบัติเด่น คือ การใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต ซึ่งช่วยให้ยางมีน้ำหนักเบา และช่วยให้ความต้านทานการหมุนของยางต่ำลงประมาณ 7.69% เมื่อเทียบกับยางรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN จึงช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น และมอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ชยุตม์ วิริยะวัฒนา ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวว่า เพื่อยกระดับโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ยั่งยืนของบริดจสโตนและเติมเต็มประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับของลูกค้าผ่านเทคโนโลยี ENLITEN ในโอกาสนี้ บริดจสโตนรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความเชื่อมั่นจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงอย่าง BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ด้วยเทคโนโลยี ENLITEN เพื่อส่งมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมรับกับหลากหลายสภาพการใช้งานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและปลอดภัยของรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV ได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันยังมีส่วนร่วมในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์เพื่อส่งต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคตอีกด้วย
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดตัวรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยเป็นรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมกับระบบฟูลไฮบริด ซึ่งผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไว้อย่างลงตัว ชูจุดเด่น 3 คือ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)