
ทัช พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทในเครือพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการบริหารจัดการพลังงานในอาคารด้าน ESG (Environment, Social, and Governance) ในวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเปิดให้บริการที่ปรึกษาด้านพลังงานผ่านบริการ Energy Consultancy สำหรับอาคารประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย โรงพยาบาล และอาคารเชิงพาณิชย์
นายชาญ ศิริรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท ทัช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ท่ามกลางต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูง และแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาด้าน ESG ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั่วโลก การบริหารจัดการพลังงานในอาคารจึงเป็นปัจจัยสำคัญสู่แนวทางการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน
อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมูลค่าธุรกิจ
นอกเหนือจากการช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้สูงถึง 20% อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ และดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติและบริษัทข้ามชาติ (Multi-National Company) ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐาน ESG
"การลงทุนในการปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพของระบบวิศวกรรมอาคารที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานอาคาร รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนที่มองหาอาคารที่มีแนวทางด้าน ESG ที่ชัดเจน แม้การพัฒนา Green Building จะมีค่าใช้จ่ายส่วนที่เพิ่มขึ้นมา แต่การกำหนดอัตราค่าเช่าได้สูงขึ้น และ การประหยัดพลังงานได้ดีกว่าสำนักงานทั่วไป ทำให้การพัฒนา Green Building มีโอกาสคืนทุนเร็วกว่าสำนักงานทั่วไป 2-3 ปี ช่วยเพิ่มกำไรให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง" นายชาญกล่าว
ระบบ AIoT ช่วยบริหารจัดการพลังงานแบบอัจฉริยะ
บริการชูโรงของทัชฯ คือ ที่ปรึกษาการจัดการพลังงานระบบปรับอากาศ (AIoT for Chiller Plant) ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Artificial Intelligence (AI) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานระบบปรับอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยระบบสามารถติดตามและควบคุมการทำงานของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ ช่วยลดการใช้พลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว
ระบบ AIoT นี้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 15-20% ต่อปี พร้อมทั้งช่วยแจ้งความผิดปกติของเครื่องจักร เพื่อวางแผนซ่อมบำรุงล่วงหน้า และเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ทั้งนี้ ภาครัฐได้ออกแคมเปญต่างๆ มาเป็นระยะเพื่อสนับสนุนการจัดทำอาคารเขียว โดยช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทุน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความยั่งยืน ผ่านการผลักดันให้ธุรกิจอาคารและผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม