PERM ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 51 โต 15-20%จากเดิม 10%หลังราคาเหล็กพุ่งแรง

          บมจ.เพิ่มสินสตีลเวิร์ค (PERM)ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 51 มาเติบโตอย่างน้อย 15-20% หรือประมาณ 2,400 ล้านบาทจากเดิมตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 พันล้านบาท และคาดปีนี้กำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 18.8 ล้านบาท พร้อมทั้งประเมินว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 7-8%ของรายได้ และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มมาที่ระดับ 7%จากปีก่อนที่อยู่ที่ 2-3%
          สาเหตุหลักมาจากราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยในไตรมาส 2/51 ราคาขายเหล็กปรับขึ้นมาเท่าตัวแล้ว ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิจะสูงกว่าไตรมาส 1/51 และไตรมาส 2/50 จากนั้นยังน่าจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/51 ด้วย พร้อมกันนั้น บริษัทยังเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เป็น 35% จาก 30% ในปีก่อน          
          "ตอนนี้เราปรับเป้ารายได้ปีนี้อย่างน้อยเพิ่มขึ้น 15-20%  จากเดิมตั้งไว้ 10% เหตุผลหลักเป็นเรื่องราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้นมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้ปรับขึ้นมา 100% จากเดือนมกราคม" นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ PERM กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" 
          อนึ่ง ไตรมาส 1/51 มีกำไรสุทธิ 20.3 ล้านบาท และในไตรมาส 2/50 มีกำไรสุทธิ 10.04 ล้านบาท
          นายชูเกียรติ มองว่า ราคาเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีนี้ เนื่องจากความต้องการในตลาดโลกยังสูงอยู่ ขณะที่ผู้ผลิตมีกำลังการผลิตเท่าเดิม โดยเฉพาะประเทศผู้ส่งออกสินแร่มีจำกัด ทำให้ราคาปรับขึ้นเท่าตัวมาอยู่ที่ 19 บาท/กก.จากกว่า 8 บาท/กก. 
          นอกจากนี้ บริษัทได้ลงทุนเพิ่มสายการผลิตสินค้าไฮเอนด์สำหรับกลุ่มยานยนต์ คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/52เพื่อมุ่งเจาะฐานลูกค้ากลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น โดยใช้เงินลงทุน 80 ล้านบาท และจะเริ่มทดลองการผลิตในไตรมาส 4/51 จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 10% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 1.2 แสนตัน 
          นายชูเกียรติ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเพิ่มกลุ่มลูกค้ายานยนต์ที่ 35% จาก 30% ส่วนกลุ่มอื่นเท่าเดิม ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 25% กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ 20-30% เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่บริษัทมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วและมีแนวโน้มอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น