นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (KEST) คาดว่า ในปีนี้รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 พันล้านบาท
การเติบโตดังกล่าวจะอยู่ภายใต้ประมาณการปริมาณการซื้อขาย 2 หมื่นล้านบาท/วัน สูงขึ้นจากปีก่อนที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยที่ 1.7 หมื่นล้านบาท/วัน ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 8.5-9% จากไตรมาสแรกที่อยู่ที่ 8.13% โดยสัดส่วนยังคงมาจากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 90% และ ธุรกิจวาณิชธนกิจ 7%
นายมนตรี กล่าวถึงในส่วนรายได้วาณิชธนกิจปีนี้ว่า น่าจะเติบโตสูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 30 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นรายได้วาณิชธนกิจเท่ากับปี 49 ที่มีรายได้ 60 ล้านบาท โดยทางบริษัทจะมีดีล IPO อีก 3-5 ดีลในครึ่งปีหลัง
"ในไตรมาส 2 ผลการดำเนินงานน่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะเรามักจะเทียบกับวอลุ่มการซื้อขาย ตอนนี้วอลุ่มเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะเห็นไ้ด้จากมาร์เกตแชร์เฉลี่ยตั้งแต่เม.ย.-พ.ค. ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 8.85% จากไตรมาส 1 ที่ 8.13%"นายมนตรี กล่าว
นายมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม โดยจะให้บลจ.เป็นผู้บริหารพอร์ตการลงทุนของบริษัท อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทยังไม่มีพอร์ตลงทุน และมีนโยบายที่จะไม่ลงทุนผ่านพอร์ตลงทุนโดยตรง เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงของลุกค้า
ส่วนธรุกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการกับลูกค้าสถาบันก่อน ส่วนรายย่อย ขณะนี้รอการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดเริ่มได้ไตรมาส 3 ปีนี้
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สิงคโปร์ไม่มีแผนลดสัดส่วนในบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หลังจากที่ทางสิงคโปร์ได้พันธมิตรจากญี่ปุ่นมา
"การได้พันธมิตรทำให้สามารถทำธุรกรรมได้มากขึ้นที่ผ่านมาได้ มีการพูดคุย ในการทำธุรกิจร่วมกัน" นายมนตรี ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--