หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานในวันนี้ว่า บริษัท โตชิบา คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เตรียมปิดโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์หลายแห่งในญี่ปุ่น เพื่อรับมือกับดีมานด์สินค้าอิเล็กทรอนิกที่ทรุดตัวลงทั่วโลก โดยคาดว่าโตชิบาจะขาดทุนการดำเนินงานในปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.2552 ราว 2 แสนล้านเยน หรือ 2.2 พันล้านดอลลาร์
ฮิโรโกะ โมชิดะ โฆษกโตชิบาปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานข่าวดังกล่าว แต่กล่าวเพียงว่าโตชิบาเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขาดทุนการดำเนินงานราว 1.50 แสนล้านเยน ซึ่งปัจจุบันโตชิบามีโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ในญี่ปุ่นและอีก 3 ประเทศในเอเชีย คือประเทศไทย มาเลเซีย และจีน
"โตชิบาวางแผนที่จะกระตุ้นการผลิตในต่างประเทศเนื่องจากต้นทุนแรงงานถูกกว่าในญี่ปุ่น และการเพิ่มการผลิตในต่างประเทศถือเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานเพื่อรับมือกับภาวะซบเซาในตลาดเซมิคอนดัคเตอร์โลก เรายอมรับว่าสถานการณ์ทางธุรกิจของเรายังคงไม่สู้ดีนัก" โมชิดะกล่าว
เซมิคอนดัคเตอร์ซึ่งผลิตที่โรงงานโตชิบาถูกนำไปใช้สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกจำพวกคอมพิวเตอร์พีซี, กล้องดิจิตอล และโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ โฆษกโตชิบาคาดว่า ยอดขายเซมิคอนดัคเตอร์จะร่วงลง 8% เหลือเพียง 1.28 ล้านล้านเยนในปีงบการเงินปีนี้ และคาดว่ากำไรสุทธิจะทรุดตัวลง 45% เหลือเพียง 7 หมื่นล้านเยน สำนักข่าวเอพีรายงาน