บริษัท อีสต์แมน โกดัก เปิดเผยว่า บริษัทอาจจำเป็นต้องขายสินทรัพย์และลดการจ่ายเงินปันผล เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะตึงตัวของกระแสเงินสดหมุนเวียน หลังจากบริษัทขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 4 เนื่องจากยอดขายกล้องดิจิตอลและพรินท์เตอร์อิงค์เจ็ทร่วงลง
คริสต์ ไวท์มอร์ นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงค์ ซิเคียวริตีส์กล่าวว่า "กระแสเงินสดหมุนเวียนของอีสต์แมน โกดัก มีแนวโน้มถดถอยลงในปี 2552 ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าบริษัทจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ในปีนี้ ด้วยเหตุนี้ โกดักอาจจำเป็นต้องลดการขาดทุนจากยอดขายกล้องดิจิตอล ด้วยการขายสินทรัพย์และยุบธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้น้อย อีกทั้งลดการจ่ายเงินปันผล" เมื่อวานนี้ อีสต์แมน โกดัก ประกาศปลดพนักงาน 4,500 คน หลังจากยอดขายร่วงลงติดต่อกัน 3 ปีในปี 2551 พร้อมกับปรับโครงสร้างองค์กรระยะเวลา 4 ปี โดยอีสต์แมน โกดักเปิดเผยว่า ยอดขายไตรมาส 4 ร่วงลง 24% เหลือเพียง 2.43 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดไว้ที่ 2.79 พันล้านดอลลาร์
อันโตนิโอ เปเรซ ซีอีโออีสต์แมน โกดัก กล่าวว่า "ในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 อาจเป็นปีที่แย่ที่สุดในประว้ติศาสตร์ของอีสต์แมน โกดัก เพราะมีปัญหาท้าทายที่หนักหน่วงที่สุดในรอบหลายทศวรรษรออยู่ อย่างไรก็ตาม เรากำลังใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าอีสต์แมน โกดัก ยังมีสถานะที่แข็งแกร่งและแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน