ผลการสำรวจความคิดเห็นผู้จัดการกองทุนกว่า 200 คนของเมอร์ริลลินช์ประจำเดือนเดือนก.พ.บ่งชี้ถึงทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่มีแววว่าจะขยายตัวดีขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยจำนวนผู้ที่คาดการณ์ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเลวร้ายลงในช่วง 12 เดือนข้างหน้านั้น ลดลงเหลือ -6% เปรียบเทียบกับระดับ -24% ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ความวิตกกังวลต่อภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยืดเยื้อยาวนานนั้นเริ่มบรรเทาเบาบางลง สอดคล้องกับทัศนคติในเชิงลบต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยผู้ร่วมตอบแบบสำรวจที่คาดว่า ผลกำไรของบริษัทเอกชนจะลดลงในปีหน้านั้นอยู่ที่ระดับ 43% จากระดับ 63% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน นักลงทุนเริ่มต้องการหันเข้าไปลงทุนในสหรัฐมากขึ้นดังจะเห็นได้จากผลสำรวจการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของสหรัฐที่ 15% ในเดือนนี้ จากระดับ 7% ในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นที่ดิ่งลงอย่างหนัก
"ความคาดหวังของผู้จัดการกองทุนสำหรับการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 และความหวังของคนทั้งโลกในตอนนี้ขึ้นอยู่กับประเทศจีน" Michael Hartnett ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์สากลด้านการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ของ Banc of America Securities-Merrill Lynch Research กล่าว
สินค้าโภคภัณฑ์กำลังจะกลับมาเมื่อนักลงทุนเริ่มจัดสรรการลงทุนมายังหุ้นที่ขึ้นลงตามวัฏจักร (Cyclicals) สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับแรงซื้ออย่างคึกคักในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาในแง่ของการเปลี่ยนแปลงการจัดสรรการลงทุน โดยนักลงทุนที่ถือโพสิชั่นกลุ่มโภคภัณฑ์ซึ่งถูกลดน้ำหนักการลงทุนมีอยู่ 15% ลดลงจาก 32% ในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มความหวังต่อเศรษฐกิจในปีนี้มากขึ้น หลังจากที่วิกฤตสินเชื่อได้เริ่มปะทุขึ้นเมื่อเดือนก.ค.2550