ตลาดโฆษณาแบบดั้งเดิมอาจอยู่ในช่วงขาลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ในสหรัฐกลับสามารถสร้างความนิยมสวนกระแส
บีบีซีรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์โดยบริษัทวิจัย ฮิทไวส์ (Hitwise) พบว่า มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ประเภท Classified หรือเว็บไซต์สำหรับลงโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ประเภทดังกล่าวพุ่งขึ้น 84% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ฮิทไวส์ เผยว่า Craigslist ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจสามารถลงโฆณาออนไลน์ได้ฟรี กลายเป็นเว็บไซต์ของสหรัฐที่มีผู้สืบค้นมากที่สุดในเดือนมีนาคม ส่งผลให้แชมป์เก่าอย่าง MySpace ซึ่งรั้งอันดับ 1 มายาวนาน 16 เดือนต้องร่วงลงจากบัลลังก์
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้จุดมุ่งหมายในการท่องเว็บไซต์เปลี่ยนไปก็คือสภาพเศรษฐกิจ
"ผู้บริโภคอ้าแขนรับการลงโฆษณาฟรี เนื่องจากมองว่าเป็นวิธีสร้างรายได้ด้วยการขายสินค้าส่วนตัว ขณะที่บางคนก็ใช้ทำประโยชน์อื่นๆ" ฮีทเธอร์ โดเฮอร์ตี ผู้อำนวยการวิจัยของ ฮิทไวส์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีฝ่ายได้ ก็ต้องมีฝ่ายเสีย ซึ่งฝ่ายที่ได้รับผลเสียไปเต็มๆจากการที่โฆษณาออนไลน์ได้รับความนิยมก็คือ ธุรกิจหนังสือพิมพ์
อุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์ของสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่าง นิวยอร์ก ไทม์ส, ชิคาโก ทริบูน และ ลอสแองเจลิส ไทม์ส ไปจนถึง เดอะ ซีแอตเทิล โพสต์-อินเทลลิเจนเซอร์ ที่มีอายุเก่าแก่ถึง 146 ปี, เดอะ ซานฟรานซิสโก ครอนิเคิล, บอสตัน โกล๊บ ตลอดจนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอย่าง เดอะ ร็อคกี้ เมาน์เท่น นิวส์ ของเดนเวอร์ และทัคสัน ซิตีเซน ในแอริโซน่า ซึ่งบางรายก็ยังคงหาทางดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ขณะที่บางฉบับก็ได้ปิดตัวลงไปแล้ว
ด้วยเหตุที่บริษัทต่างๆ หันมาลงโฆษณาแบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะลงโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้รายได้จากการโฆษณาที่หนังสือพิมพ์ต่างๆเคยได้รับเป็นกอบเป็นกำ กลับต้องมาหดหายไป
ดังนั้น เว็บไซต์สำหรับลงโฆษณาฟรี ซึ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบในสถานการณ์นี้ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาที่ว่ามีส่วนกดดันให้ธุรกิจหนังสือพิมพ์ของสหรัฐต้องตกที่นั่งลำบากดังเช่นที่เผชิญอยู่ในเวลานี้