ไฮเนเกน เอ็นวี ซึ่งเป็นบริษัทเบียร์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เปิดเผยว่ากำไรของบริษัทในไตรมาส 1 ลดลง เนื่องจากยอดขายเบียร์ที่ร่วงลง และบริษัทมีต้นทุนที่เกี่ยวกับการซื้อกิจการสก็อตติช แอนด์ นิวคาสเซิล เมื่อปีที่แล้ว ส่วนยอดขายเบียร์อ่อนตัวลง 6.3% ลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นที่คาดว่า ยอดขายจะอ่อนตัวลง 2.5%
การบริโภคเบียร์ที่มีราคาสูงของบริษัทอย่างไฮเนเกน พรีเมียม ไลท์ ในสหรัฐ อังกฤษ และสเปน ร่วงลง เนื่องจากผู้บริโภคที่ต้องประหยัดหันไปดื่มเบียร์ยี่ห้ออื่นที่มีราคาถูกกว่า ขณะที่กลุ่มผู้ขายส่งเองก็ต้องการลดสินค้าในคงคลัง ที่ผ่านมา ไฮเนเกนได้ขึ้นราคาเบียร์ 6% จากระดับปีที่แล้ว เพื่อชดเชยกับยอดขายที่ลดลงและความผันผวนของค่าเงินที่ไม่เป็นใจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า เจสัน เดอไรส์ นักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี กล่าวว่า การลดสินค้าในคงคลังในสหรัฐเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับบริษัท หลังจากที่มีการขึ้นราคาเบียร์ในตลาดหลักๆ เช่น รัสเซีย
ไฮเนเกนระบุว่า จะยังคงใช้จุดยืนในการคงราคาแบบเบียร์เพื่อรักษาภาพแบรนด์ที่สำคัญของตนเองเอาไว้ แม้ว่ายอดขายเบียร์จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการขึ้นราคา รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 24% แตะ 3.05 พันล้านยูโร หรือ 3.94 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่การซื้อกิจการของสก็อตติช แอนด์ นิวคาสเซิล ช่วยกระตุ้นยอดขายในอังกฤษ และฝรั่งเศส รวมถึงการเพิ่มแบรนด์อย่างจอห์น สมิท และโครเนนเบิร์ก