ยอดขายยาต้านไวรัส หน้ากากอนามัย และถุงมืออนามัยในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกแพร่ระบาดทั่วอเมริกาเหนือ โดยบริษัท ซีวีเอส แคร์มาร์ค และบริษัท ไรท์ เ อด คอร์ป ซึ่งเป็นห้างจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐได้เพิ่มออเดอร์ยาทามิฟลูจากบริษัท โรช โฮลดิ้ง ขณะที่บริษัท 3M และบริษัท อัลฟา โปร เทค เร่งผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อให้เพียงพอต่อดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้น
ปีเตอร์ ซอเรนติโน นักวิเคราะห์จาก Huntington Asset Advisors Inc กล่าวว่า บริษัทที่ผลิตสินค้าเพื่อการป้องกันและรักษาสุขภาพต่างกอบโกยกำไรกันถ้วนหน้า เนื่องจากดีมานด์สินค้าพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นเป็น 149 รายแล้ว
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก (swine flu) จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนและกระจายต่อไปยังชุมชน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกในเม็กซิโกพุ่งขึ้นแตะระดับ 149 คนแล้วในขณะนี้ และแพร่กระจายไปยังสหรัฐ แคนาดา รวมถึงในยุโรป
นายเกรกอรี ฮาร์ทเทิล โฆษกของ WHO กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐดำเนินการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดหมูอย่างเร่งด่วน พร้อมแถลงยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกว่า ผู้ติดเชื้อในเม็กซิโกมี 26 ราย ในสหรัฐ 20 ราย ในแคนาดามี 6 ราย และสเปน 1 ราย ซึ่งสเปนเป็นชาติแรกในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อ
ทั้งนี้ หุ้นซีวีเอสพุ่งขึ้น 19 เซนต์ แตะที่ 29.92 ดอลลาร์ ในช่วงเช้านี้ ขณะที่หุ้น 3M ดีดขึ้น 35 เซนต์ แตะที่ 57.35 ดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน