เอเซอร์ อิงค์ ของไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทวางแผนขยายฐานตลาดคอมพิวเตอร์ในญี่ปุ่นให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการนำโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่มีขนาดบางเบา พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ครั้งละยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และมีราคาถูก อย่างไรก็ตาม เอเซอร์คงต้องทำงานหนักเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดที่เจาะเข้าไปได้ยาก เพราะมีผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกรายใหญ่ครองตลาดอยู่หลายราย แม้เอเซอร์นั่งแท่นเป็นผู้ผลิตพีซีรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากฮิวเลตต์ แพคการ์ด และเดลล์ ก็ตาม
แต่สถานการณ์ในตลาดญี่ปุ่นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นต้องการทางเลือกใหม่ๆในยามที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย โดยชาวญี่ปุ่นเริ่มให้ความสนใจสินค้ามีแบรนด์น้อยลง จากที่เมื่อก่อนชาวญี่ปุ่นมักเลือกสรรเฉพาะสินค้าแบรนด์หรูหราและเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก
บ็อบ เซน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเซอร์ เจแปน คอร์ป กล่าวว่า เอเซอร์คาดหวังว่าจะเลื่อนชั้นในการเป็นเจ้าตลาดญี่ปุ่นที่อันดับ 5 จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่อันดับ 6 โดยในเดือนมิ.ย.นี้ เอเซอร์จะเปิดตัวโน้ตบุ๊ค Aspire Timeline ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชุด โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 90,000 เยน หรือ 960 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าราคาของคู่แข่งถึงครึ่งหนึ่ง โดยปัจจุบันคู่แข่งรายสำคัญของเอเซอร์คือ เอ็นอีซี คอร์ป, ฟูจิตสึ, เดลล์, โตชิบา คอร์ป และฮิวเลตต์-แพคการ์ด
โน้ตบุ๊ค Aspire Timeline ซึ่งวางตลาดแล้วในสหรัฐ จีน และยุโรป สามารถใช้งานได้ครั้งละยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ ตัวเครื่องจะไม่ร้อน เพราะใช้เทคโนโลยระบายความร้อนของ อินเทล คอร์ป
"เราเชื่อมั่นว่าจะเจาะตลาดญี่ปุ่นได้แน่นอน เราไม่เพียงแต่คาดหวังว่าโน้ตบุ๊ครุ่นนี้จะกระตุ้นส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นได้เท่านั้น แต่ยังจะช่วยฟื้นฟูตลาดพีซีที่ถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วย" เซนกล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน