สมาคมภาคธุรกิจต่างชาติติงรบ.จีนทบทวนมาตรการติดตั้งซอฟท์แวร์บล็อกเว็บต้องห้ามบนเครื่องพีซี

ตัวแทนบริษัทต่างชาติท้วงรัฐบาลจีนควรทบทวนการใช้มาตรการติดตั้งซอฟท์แวร์บล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจารที่จะติดตั้งในพีซีทุกเครื่องที่วางขายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แจงกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

บลูมเบิร์กรายงานอ้างเนื้อความในจดหมายของสมาคมภาคธุรกิจที่มีสมาชิก เช่น หอการค้าอเมริกันในจีนและสมาพันธ์ซอฟท์แวร์ธุรกิจ ได้ส่งถึงกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนว่า การติดตั้งซอฟท์แวร์ดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามตามมากมากมาย ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ความน่าเชื่อถือของตัวระบบ และการเข้าถึงข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ท

นอกจากนี้ เนื้อความในจดหมายยังระบุถึงข้อเรียกร้องของทางสมาคมฯว่า "เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนข้อกำหนดการติดตั้งซอฟท์แวร์ดังกล่าวอีกครั้ง และขอให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมในการหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เพราะการใช้นโยบายครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายด้านการเป็นศูนย์กลางข้อมูลและเทคโนโลยีไอทีชั้นนำของจีน"

ทั้งนี้ นับตั้งแต่จีนประกาศใช้มาตรการติดตั้งซอฟท์แวร์บล็อกเว็บไซต์ต้องห้าม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "Green Dam- Youth Escort" นั้น รัฐบาลต้องเจอกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากภาคอุตสาหรรมต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่สถาบันการศึกษา และผู้ที่คัดค้านการใช้ซอฟท์แวร์เซนเซอร์เว็บต้องห้ามทั้งหลาย

รีเบคก้า แมคคินนอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยในฮ่องกงกล่าวว่า "เป็นเรื่องที่ดีที่ภาคอุตสาหกรรมต่างๆลุกขึ้นมามีปากเสียงกับรัฐบาล เพราะโครงการนี้ไม่เพียงแต่จะมีผลต่อส่วนรวม แต่ยังส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมโดยรวมด้วย

อย่างไรก็ดี คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งซอฟท์แวร์ดังกล่าวจะป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร ไปจนถึงประเด็นทางการเมืองที่อ่อนไหวในจีน เช่น เหตุการณ์ทหารกวาดล้างการชุมนุมที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532 และความเคลื่อนไหวของลัทธิฝ่าหลุนกง เป็นต้น