นินเทนโดและโซนี่ 2 บริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมชั้นนำของโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดัน หลังจากที่ยอดขายเครื่องเล่นเกม Wii ตกลงเป็นครั้งแรก ขณะที่ยอดส่งออกเพลย์สเตชั่น 3 ก็ตกลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ราคาหุ้นนินเทนโดร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากที่นินเทนโดเปิดเผยยอดขาย Wii ว่า ตกลงไปถึง 57% ขณะที่กำไรก็ร่วงลงไป 61% ส่วนโซนี่เองก็รายงานยอดการส่งออกเพลย์สเตชั่น 3 ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยยอดการส่งออก Playstation 3 ตกลงไปแล้ว 31% ทางด้านไมโครซอฟท์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยอดขาย Xbox 360 ในไตรมาส 2 มีเพียง 1.2 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
แม้ว่า สถานการณ์จะออกมาในรูปการณ์ดังกล่าว แต่โฮเวิร์ด สตริงเกอร์ ซีอีโอของโซนี่ และซาโตรุ อิวาตะ ประธานของนินเทนโด ก็ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของผู้จำหน่ายเกมที่ต้องการให้ลดราคาสินค้า หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกทำให้ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัวลง นอกจากนี้ ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นก็ทำให้รายได้ของบริษัทค่ายญี่ปุ่นหดตัวลงไปด้วยเช่นกัน ส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันต่ำกว่าคู่แข่งในต่างประเทศ เช่น ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์
มิตซูชิเกะ อากิโน เจ้าหน้าที่ของอิชิโยชิ อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า โซนี่และนินเทนโดจำเป็นต้องลดราคาเพลย์สเตชั่นและ Wii มิเช่นนั้นเครื่องเล่นเกมเหล่านี้ก็ขายไม่ออก นักลงทุนเองก็กลัวว่า ผู้บริโภคจะลดการใช้จ่ายของตนเองลงไปอีก
ซีอีโอโซนี่ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของแอคทิวิชั่น บลิซซาร์ด อิงค์ ผู้จำหน่ายวิดีโอเกมรายใหญ่สุดของโลก ที่ต้องการให้มีการลดราคาเพลย์สเตชั่น 3 ซึ่งขายกันอยู่ที่ 400 ดอลลาร์ ส่งผลให้บริษัทอาจจะยกเลิกการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับโซนี่ ทางด้านแดเนียล เดแมททิโอ ผู้บริหารเกมสต็อป คอร์ป บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมรายใหญ่ ก็มองว่า ราคาเกมคอนโซมนั้นสูงเกินไป
สำหรับประธานของนินเทนโด ซึ่งยังคงราคา Wii ไว้ที่ 250 ดอลลาร์มาตั้งแต่เปิดตัวสินค้านั้น กล่าวว่า เขาไม่ได้พิจารณาเรื่องการลดราคาสินค้าเช่นกัน โดยซีอีโอของโซนี่กล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตอนนี้เราขาดทุนไปกับเพลย์สเตชั่นทุกๆเครื่องที่ผลิตขึ้นมา
ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 1 ของนินเทนโด ร่วง 40% แตะ 2.53 แสนล้านเยน หรือ 2.7 พันล้านดอลลาร์ โดยนินเทนโดมองว่า รายได้ที่ลดลงไปนั้น เป็นเพราะไม่มีการติดชื่อซอฟท์แวร์บล็อคบัสเตอร์ บลูมเบิร์กรายงาน