ฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวนชี้ธุรกิจประชุมทางไกลเสมือนจริงจะทำยอดขายในตลาดโลกได้ 35% ในอีก 5 ปี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 5, 2009 14:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการประชุมทางไกลเสมือนจริงและการประชุมผ่านวิดีโอทั่วโลกอาจทำยอดขายได้กว่า 35% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2557 ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผู้บริหารจากแทนด์เบิร์ก (TANDBERG) และฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวนกล่าวในพิธีเปิดห้องประชุมทางไกลเสมือนจริง TANDBERG T3 ในฮ่องกง ว่าการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ลูกค้าองค์กรตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของการสื่อสารผ่านจอภาพ และคาดว่ามูลค่ายอดขายธุรกิจดังกล่าวในเอเชียแปซิกฟิกจะขยายตัวถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์จากทั้งหมด หลังเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกลุ่มสถาบันการเงินอย่างดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

ลาร์ส รอนนิ่ง ประธานแทนด์เบิร์กประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่าการประชุมทางไกลเสมือนจริงเป็นประสบการณ์ใหม่และเป็นส่วนขยายของการประชุมผ่านวิดีโอที่มีแต่จะยิ่งกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมการสื่อสารผ่านจอภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมแผนกไอซีทีจากฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า ตลาดการประชุมทางไกลเสมือนจริงในเอเชียกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และเพื่อศักยภาพสูงสุดในการใช้งาน ลูกค้าต้องสามารถพูดคุยกันได้แม้ว่าจะใช้บริการเครือข่ายที่แตกต่างกันหรือใช้ระบบการประชุมทางไกลเสมือนจริงที่ต่างกัน"

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการประชุมทางไกลเสมือนจริงสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะได้รับแรงหนุนหลักจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาบรอดแบนด์ที่ลดลง และการที่ผู้บริหารต้องการลดต้นทุนในการเดินทางทำธุรกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ