เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ได้ย้ายไมเคิล จอเกอแกน ซีอีโอของเอชเอสบีซีจากลอนดอนมาประจำการที่ฮ่องกง เนื่องจากธนาคารรายใหญ่สุดของยุโรปตั้งเป้าทำตลาดในตลาดเกิดใหม่มากขึ้น อย่างไรก็ดี อังกฤษยังคงเป็นฐานการทำธุรกิจของธนาคาร และธนาคารไม่มีแผนที่จะย้ายฐานการดำเนินงาน โดยประธาน สตีเฟน กรีน, ซีเอฟโอ ดักลาส ฟลินท์ และสจ๊วร์ต กัลลิเวอร์ ประธานฝ่ายวาณิชธนกิจจะยังคงประจำการอยู่ที่ลอนดอน
เอชเอสบีซีสามารถเอาตัวรอดโดยไม่ต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลเหมือนกับคู่แข่ง 2 ราย ได้แก่ ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ขณะนี้ธนาคารกำลังขยายกิจการไปยังตลาดเกิดใหม่และได้ปิดสาขาด้านสินเชื่อผู้บริโภครายย่อยในสหรัฐซึ่งเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้แบงค์ต้องขาดทุน
แหล่งข่าวกล่าวว่า เอชเอสบีซีได้จ้างที่ปรึกษามาดูแลเรื่องการขายหุ้นของธนาคารในตลาดหุ้นจีนปีหน้าด้วยเช่นกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า เอชเอสบีซีมีรายได้จากฮ่องกงและเอเชียแปซิฟิคประมาณ 26% เมื่อปีที่แล้ว โดยเอชเอสบีซีมีสัดส่วนของสินทรัพย์ที่ฮ่องกง 15.3% ส่วนที่เหลือเป็นสินทรัพย์ในเอเชียที่ 9.9%
อาร์ทูโร่ เด ฟรีอาส นักวิเคราะห์ของอีโวลูชั่น ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า เอชเอสบีซีจำเป็นต้องลงทุนในเอเชียเพิ่มขึ้น และเปิดสาขาในภูมิภาคนี้มากขึ้น จากการประกาศย้ายที่ทำงานของผู้บริหารครั้งนี้