ไนกี้ อิงค์ ผู้ผลิตรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬารายใหญ่สุดของโลก เผยกำไรไตรมาสแรกของปีนี้แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกต่างใช้จ่ายเงินอย่างจำกัดอันเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ
โดยบริษัทมีกำไร 513 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.04 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงไตรมาสซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม เทียบกับ 510.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์จากการสำรวจของธอมสัน รอยเตอร์ คาดว่าจะมีกำไรเพียง 97 เซนต์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทลดลง 12% แตะ 4.8 พันล้านดอลลาร์ จาก 5.4 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีรายได้ 4.9 พันล้านดอลลาร์
ช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจไนกี้พยายามลดต้นทุนด้วยการปลดพนักงาน ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ และควบคุมสต็อกสินค้าอย่างเข้มงวด แต่สุดท้ายก็ยังได้รับผลกระทบ โดยรายได้ของบริษัทลดลงในทุกตลาดทั่วโลก และมีแนวโน้มว่ารายได้จะลดลงอีกเนื่องจากยอดสั่งซื้อจากผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคงวดส่งมอบเดือนกันยายน-มกราคม ลดลงถึง 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังพอใจที่ไนกี้สามารถพยุงตัวได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ โดยหุ้นไนกี้บวก 2.20 ดอลลาร์ หรือกว่า 3% แตะที่ 2.29 ดอลลาร์ สำนักข่าวเอพีรายงาน