กูเกิล อิงค์ เปิดเผยว่ากำไรสุทธิประจำไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 27% แตะที่ 1.64 พันล้านดอลลาร์ หรือ 5.13 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ระดับ 1.29 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.06 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่ยอดขายไตรมาส 3 ของกูเกิลอยู่ที่ 4.38 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะอยู่ที่ 4.25 พันล้านดอลลาร์
เอริค ชมิดท์ ซีอีโอกูเกิลกล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นช่วยกระตุ้นดีมานด์การโฆษณาออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นจุดวิกฤติที่สุดไปแล้วยังช่วยให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและลงทุนด้านโฆษณาออนไลน์มากขึ้นด้วย "
ชมิดท์ยังกล่าวด้วยว่า กูเกิลยังคงอัตราการลงทุนและการจ้างงานไว้ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวของกูเกิล นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นเรื่องจากเข้าซื้อหุ้นในบริษัทอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อเสริมสร้างเทคโนโลยีเสิร์ชเอนจิ้นและกระตุ้นรายได้จากการโฆษณาให้แข็งแกร่งขึ้น
มาร์ติน พิคโคเนน นักวิเคาะห์จากบริษัท แจนโค พาร์ทเนอร์ส ในรัฐโคโลราโดกล่าวว่า กูเกิลบริหารจัดการด้านการเงินอย่างมีวินัย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของกูเกิล ทั้งนี้ พิคโคเนนแนะนำให้นักลงทุน 'ซื้อ' หุ้นกูเกิล" โดยหุ้นกูเกิลพุ่งขึ้นไปแล้ว 72% ในปีนี้ ขณะที่จีน มันสเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท ไพเพอร์ แจฟเฟรย์ แอนด์ โค กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กูเกิลจะรุกซื้อหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆในระยะนี้ ซึ่งจะช่วยให้รายได้จากการโฆษณาของกูเกิลสูงขึ้นด้วย