แอลจี เทเลคอม ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในเกาหลีใต้รายงานผลกำไรที่ร่วงลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน หลังบริษัททุ่มงบการใช้จ่ายด้านการตลาดเพื่อหวังแย่งลูกค้าจากเอสเค เทเลคอมและเคที คอร์ป
บลูมเบิร์กรายงานว่า กำไรสุทธิของแอลจี เทเลคอมในช่วงไตรมาส 3 ปรับตัวลดลงลดลง 6.8% อยู่ที่ 9.27 หมื่นล้านวอน (79 ล้านดอลล์สหรัฐ) จากระดับ 9.94 หมื่นล้านวอนในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 5.6% แตะระดับ 1.27 ล้านล้านวอน
โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะรายงานผลกำไรที่ 8.93 หมื่นล้านวอน จากรายได้ที่ระดับ 1.24 ล้านล้านวอน
ด้านผลกำไรจากการดำเนินงาน หรือยอดขายที่หักค่าใช้จ่ายสินค้าและการดำเนินงานปรับตัวลดลง 9.6% มาอยู่ที่ 1.11 แสนล้านวอน เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.13 แสนล้านวอน ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มขึ้น 25% สู่ระดับ 2.766 แสนล้านวอน
แอลจี เทเลคอมเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทมีแผนที่จะควบกิจการในเครืออย่างบริษัทแอลจี ดาคอม คอร์ป และแอลจี พาวเวอร์ คอร์ป เพื่อแข่งขันกับเคที และเอสเค เทเลคอมโดยมีเป้าหมายที่จะดึงดูดลูกค้าในส่วนของธุรกิจให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูงและการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน
ด้านนักวิเคราะห์จากโนมูระ โฮลดิ้งส์มองว่า แผนการดังกล่าวจะช่วยให้แอลจี เทเลคอมประหยัดค่าใช้จ่าย ขณะที่การวางกลยุทธ์ทางการตลาดหลังเสร็จสิ้นการควบรวมกิจการนั้นจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาสินค้าในภาคอุตสาหกรรมการสื่อสารของเกาหลีใต้
ทั้งนี้ แอลจี เทเลคอมมีส่วนแบ่งในตลาดมือถือของเกาหลีใต้อยู่ 18% เมื่อเทียบกับเอสเค เทเลคอมที่ครองส่วนแบ่งในตลาดสูงสุด 51% ตามด้วยเคทีที่ครองส่วนแบ่งตลาด 31%