แอปเปิล อิงค์ ปลื้มผลประกอบการขยายตัวสูงเกินคาด หลังอุปสงค์สินค้าไอโฟน และไอพอด รวมถึงคอมพิวเตอร์แมคอินทอชกลับมาคึกคักต้อนรับเปิดเทอม ซึ่งผลประกอบการที่สดใสได้ช่วยกระตุ้นให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นพุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากที่ตลาดปิดทำการซื้อขาย
แอปเปิลเปิดเผยในแถลงการณ์วันนี้ว่า รายได้สุทธิรายไตรมาสพุ่งสูง 47% แตะที่ระดับ 1.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.82 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% แตะระดับ 9.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 9.22 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่คาดว่ากำไรของบริษัทจะอยู่ที่ 1.43 ดอลลาร์/หุ้น
โดยบริษัทส่งออกเครื่องไอโฟน 7.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่แล้ว และมีวางจำหน่ายในกว่า 80 ประเทศ และจะขยายตลาดไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ขณะเดียวกันในไตรมาสที่แล้ว แอปเปิลมียอดขายคอมพิวเตอร์แมคอินทอช 3.05 ล้านเครื่อง และทำยอดขายไอพอดได้ 10.2 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ แอปเปิลไม่ได้รับผลกระทบจากความกังวลของนักลงทุนที่ว่า ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจจะฉุดรั้งอุปสงค์สินค้า โดยจะเห็นได้ว่ายอดขายและผลกำไรของบริษัทขยายตัวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในแต่ละไตรมาสที่ผ่านมา โดยบริษัทเริ่มขายไอโฟน 3G ในเดือนมิ.ย. ซึ่งกระตุ้นยอดสั่งซื้อมากขึ้น ขณะที่สตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิลประกาศหั่นราคาไอพอด พร้อมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่อย่างไอพอด นาโน ที่ซ่อนกล้องวิดีโอไว้ภายใน รวมถึงอัดโปรโมชั่นเครื่องแมคอินทอชในช่วงที่เปิดเทอม
ไรอัน จาคอบ นักวิเคราะห์จากบริษัท Jacob Internet Fund กล่าวว่า "ผลประกอบการของแอปเปิลยังคงไปได้สวยแม้ต้องเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เลวร้าย โดยเฉพาะไอโฟนที่ทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราเชื่อว่าผลประกอบการของแอปเปิลจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องอีกไปอีกนาน"
บลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นของแอปเปิลพุ่งขึ้นสูงสุด 14.99 ดอลลาร์ หรือ 7.9% ในช่วงท้ายของการซื้อขาย โดยหุ้นของบริษัทขยายตัวสองเท่าในปีนี้
ทั้งนี้ แอปเปิลครองส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์ได้สูงสุดนับตั้งแต่จ็อบส์กลับเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอในปี 2540 โดยเครื่องแมคอินทอชสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดพีซีของสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะที่ 9.4% ในไตรมาส 3 จากระดับ 8.6% ในปีก่อนหน้านี้